จุดเด่นอุตสาหกรรมกล้วยไม้ไต้หวัน
แต่เดิมไต้หวันเป็นราชากล้วยไม้อันดับ 1 ของโลก ปัจจุบันถูกเนเธอร์แลนด์แซงหน้าตกมาอยู่อันดับ 2 ไต้หวันควรจะพัฒนาต่อไปอย่างไรในตลาดโลก หลินเหลียงเม่ากล่าวว่า “พวกเราควรจะเปลี่ยนมุมมองว่า ไต้หวันควรจะอยู่ในตำแหน่งไหนของโซ่คุณค่าสินค้าเกษตรที่มีการเชื่อมต่อกันทั่วโลกเช่นนี้”
ในปี ค.ศ. 2010 เจี่ยนเจียเต๋อ (簡嘉德) ทายาทรุ่นที่ 3 ของ I Hsin Orchids ได้ไปลงทุนตั้งโรงงานที่แคลิฟอร์เนีย โดยที่ I-Hsin Orchids มุ่งส่งออกสหรัฐอเมริกาเป็นหลักอยู่แล้ว จึงได้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคทำให้ได้รับข้อมูลการตลาดเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ เจี่ยนเจียเต๋อวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าและจุดเด่นระหว่างไต้หวันกับเนเธอร์แลนด์ในการส่งออกกล้วยไม้ไปสหรัฐฯ ว่า “ไต้หวันเป็นประเทศแรกที่ส่งออกพร้อมกับวัสดุเพาะเลี้ยงได้ กล้วยไม้จึงมีความสดเก็บได้นาน ขณะที่เนเธอร์แลนด์ จะเลือกกล้วยไม้ที่ทนทานต่อการขนส่ง ดังนั้น ชนิดกล้วยไม้ส่งออกของสองประเทศจึงต่างกัน”
การได้ใกล้ชิดผู้บริโภค ทำให้เจี่ยนเจียเต๋อ สามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง I Hsin Orchids มีสายพันธุ์กล้วยไม้ที่หลากหลาย “ตลาดต้องการอะไร พวกเราติดตามและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว”
ในอีกด้านหนึ่ง Symon Agricultural Biotech มีความชำนาญด้านการเปลี่ยนสีดอกไม้ หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน พวกเขาแสดงการสนับสนุนยูเครนด้วยการนำกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสสีขาว พ่นด้วยสีเหลือง-น้ำเงิน เลียนแบบธงชาติยูเครน ได้รับการตอบรับที่ดี หวงฉงเต๋อทำการวิจัยพัฒนาการเปลี่ยนสีดอกไม้ด้วยเทคนิคการย้อมสีและพ่นสีเป็นเวลาหลายปีแล้ว สีที่ใช้ไม่ทำให้อายุดอกไม้สั้นลง แต่กลับคงความสดได้ยาวนานขึ้นได้ การย้อมสีผ่านการดูดซึมโดยท่อลำเลียงของพืช ทำให้ลายเส้นดอกไม้เปลี่ยนไปมีสีสันสดสวยงดงาม ส่วนการพ่นสี เป็นงานศิลป์ที่ต้องอาศัยความชำนาญในการผสมสี รูปแบบที่ผู้คนชื่นชอบกันมากคือการพ่นสีเลียนแบบธงชาติประเทศต่าง ๆ กล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสสีขาวเปรียบเสมือนเป็นผ้าสำหรับระบายสี เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์จินตนาการงานศิลปะอย่างไร้ขีดจำกัด
“ดอกไม้เปลี่ยนสี ตลาดไม่ใหญ่ แต่มีมูลค่าเพิ่มสูง หากมีการสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่ จะกระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภค และจะทำให้สินค้ารูปแบบพื้นฐานขายดีไปด้วย” หวงฉงเต๋อกล่าวว่า “ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า GDP ทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้น ถึงตอนนั้นจะมีกำลังจับจ่ายที่น่าตะลึง ความต้องการดอกไม้สูง หากพวกเราไม่เตรียมการในตอนนี้ ก็จะไม่ทันการ” นี่คือความคาดหวังต่ออนาคต เตรียมพร้อมสำหรับการขยายตลาดโลก
ด้วยเทคนิคการทำให้กล้วยไม้ออกดอกได้ตลอดปี เป็นการปรับฤดูผลผลิตออกสู่ตลาด ด้วยความร่วมมือกันในวงการกล้วยไม้ ไต้หวันกำลังพยายามทำให้ “ฟาแลนนอปซิส” บานสะพรั่งไปทั่วโลก