เวทมนตร์แห่งการจัดระเบียบ
กล่องเก็บศิลปะ และหมอจัดตู้เสื้อผ้า
เนื้อเรื่อง‧เฉินฉวินฟัง ภาพ‧จวงคุนหรู แปล‧มณฑิรา ไชยวุฒิ
กุมภาพันธ์ 2021

現代人生活寬裕,物品的取得容易。但堆積如山的物品卻沒有帶來快樂,反倒在雜物中迷失,「整理師」便因應而生。跟著我們直擊居家整理顧問何安蒔與衣櫥醫生賴庭荷的工作現場,探訪這個神秘又迷人的新領域吧!
ความกินดีอยู่ดีของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงวัตถุต่างๆ แต่สิ่งของที่กองอยู่เต็มบ้านอาจไม่ได้นำมาซึ่งความสุข ในทางกลับกัน ของเหล่านี้อาจกลายเป็นความหายนะอันยุ่งเหยิง จนเกิดอาชีพนักจัดระเบียบบ้าน (Home Organizer) ขึ้นมา

ก่อนจัดระเบียบ ห้องครัวเต็มด้วยสิ่งของวางระเกะระกะ หลังจัดระเบียบแล้ว สิ่งของประเภทเดียวกันถูกวางไว้ในโซนเดียวกัน หยิบจับง่าย เห็นปริมาณสิ่งของชัดเจน หลีกเลี่ยงการซื้อมากักตุนมากเกินไป
เราได้ตามติดคุณเหออันสือ (何安蒔) นักจัดระเบียบบ้าน กับคุณไล่ถิงเหอ (賴庭荷) หมอจัดตู้เสื้อผ้า (Closet Visitor) ไปยังสถานที่ทำงาน เพื่อสำรวจดินแดนใหม่อันลึกลับและน่าหลงใหล
เมื่อเปิดตู้ ของที่อยู่ข้างในก็ตกมาใส่ศีรษะ ห้องที่เต็มไปด้วยลังหนังสือและเสื้อผ้าจนไม่มีทางเดิน หรือมุมห้องที่มีกล่องกระดาษกองเป็นภูเขา และเมื่อเคลื่อนย้ายก็มีแมลงสาบ หรือหนู วิ่งออกมา สิ่งเหล่านี้คือสถานการณ์จริงที่นักจัดระเบียบบ้านต้องเผชิญหน้าด้วย

ทฤษฎีสี 4 ฤดูกาล แดง ชมพู เหลือง น้ำเงิน เขียว จะมีโทนสีในแต่ละฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวที่แตกต่างกันไป
ชีวิตประจำวันของนักจัดระเบียบบ้าน
คุณเหออันสือ ที่ปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้านของบริษัทกล่องเก็บงานศิลปะเผยว่า การทำความสะอาดบ้านก็คือการจัดการกับความสกปรก เพียงแค่ทำความสะอาดฝุ่นกับสิ่งสกปรกให้หมดจดก็เพียงพอ ขณะที่การจัดระเบียบคือการจัดการกับความยุ่งเหยิง จำเป็นต้องจัดการกับสิ่งของที่วางอยู่อย่างระเกะระกะจนในห้องไม่มีพื้นที่ให้ขยับตัว
นักจัดระเบียบบ้านจะใช้วิธีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์และจัดหาสถานที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของ โดยตระหนักถึงความต้องการของลูกค้าให้มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกสบาย คุณเหออันสือเคยจัดระเบียบห้องด้วยการปรับเพียงเส้นแบ่งสัดส่วน ก็ทำให้ห้องซึ่งเดิมทีขาดความสวยงาม กลายเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยได้ 4 แบบ คือ ห้องนอน, ห้องรับแขก, ห้องหนังสือ และห้องเล่นโยคะ จนลูกค้าพูดว่า เขารู้สึกพึงพอใจกับห้องนี้มากที่สุดในชีวิต
นักจัดระเบียบบ้านมักต้องรับมือกับเรื่องอารมณ์ของลูกค้า บางทีจัดไปได้ครึ่งหนึ่ง ลูกค้าก็แสดงความโกรธไม่พอใจ หรือบางทีรู้สึกผิดหวังจากการเห็นสิ่งของมากมายถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือบางทีสมาชิกในครอบครัวก็ทะเลาะกันระหว่างการจัดระเบียบ ทำให้บางครั้งนักจัดระเบียบบ้านไม่เพียงแค่ต้องตกแต่งพื้นที่ให้สวยงาม แต่ยังจำเป็นต้องค้นหาต้นตอของปัญหาออกมาให้ได้ด้วย คุณผู้หญิงท่านหนึ่งได้จ้างให้คุณเหออันสือมาช่วยจัดการห้องอาหาร แต่ความที่สามีและภรรยาต่างมีความคิดเห็นเป็นของตน จึงต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นจนทราบว่า ฝ่ายภรรยาหวังให้มีโต๊ะรับประทานอาหารร่วมกันเหมือนสมัยเด็ก เพื่อแบ่งปันความทรงจำดีๆ ในชีวิตให้ลูกหลานฟัง ขณะที่ฝ่ายสามีรับประทานอาหารในห้องรับแขกมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นในกรณีนี้แม้ห้องอาหารจะถูกตกแต่งออกแบบอย่างสวยงาม สถานการณ์ก็อาจจะไม่ดีขึ้น แต่เมื่อคุณเหออันสือได้ค้นพบต้นตอของปัญหา และทำให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันได้ จึงค่อยดำเนินการจัดระเบียบบ้านให้แล้วเสร็จ สร้างบรรยากาศที่ครอบครัวต้องการร่วมกัน
การเป็นนักจัดระเบียบบ้าน ไม่เพียงต้องมีทักษะในการวางแผนพื้นที่ใช้สอยและการจัดเก็บสิ่งของ แต่ยังต้องรู้จักสื่อสาร ทำความเข้าใจ และเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากยิ่งขึ้น

คุณไล่ถิงเหอ (ซ้าย) นำเสื้อผ้าทั้งหมดลงมาจากราว และขอให้ลูกค้าแยกประเภท ในระหว่างการตัดสินใจ ลูกค้าจะรู้สึกถึงความชอบหรือไม่ชอบของ ตัวเองได้ชัดเจนขึ้น
แสดงศักยภาพ ค้นหาความเป็นตัวเอง
คุณเหออันสือ ตั้งบริษัท “กล่องเก็บศิลปะ” ขึ้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.2016 เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการจัดระเบียบบ้านเจ้าแรกๆ ของไต้หวัน
สมัยเด็กๆ ทุกครึ่งปี พ่อของคุณเหออันสือจะพาเธอกับน้องสาวไปเยี่ยมชมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เพื่อสอนการวัดพื้นที่และพิจารณาถึงการจัดวางสิ่งของไว้ในตำแหน่งต่างๆ พี่น้องสองสาวจึงปรับเปลี่ยนการตกแต่งห้องอยู่บ่อยๆ ทั้งทำการทาสีด้วยตนเอง และจัดตกแต่งตู้เสื้อผ้า บ่มเพาะให้เธอเป็นคนชอบตกแต่งพื้นที่ให้สวยงาม หลังแต่งงาน คุณเหออันสือได้เข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านของสามี เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ภายในบ้านเป็นของมือสองที่รับมาจากญาติพี่น้อง แม้ว่าของจะยังใช้งานได้จริงแต่ก็ขาดซึ่งความสวยงาม ดังนั้นเธอจึงนำเอาการประดับตกแต่งไปใช้แปลงร่างให้กับสิ่งของเหล่านี้ พร้อมกับเริ่มเก็บเงินด้วยตนเองมาตั้งแต่ปีค.ศ.2015 เพื่อตกแต่งห้องครัวและพื้นห้องใหม่คุณเหออันสือทำการเลือกวัสดุด้วยตนเองวาดภาพออกแบบและลงมือสร้างห้องครัวในอุดมคติด้วยตัวของเธอเอง
เมื่อเห็นคุณเหออันสือจัดตกแต่งบ้านได้เป็นระเบียบสวยงาม พ่อของเธอจึงแนะนำให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดตกแต่งบ้าน เพื่อช่วยบ้านหลังอื่นๆ ค้นหาต้นตอของปัญหา พร้อมตกแต่งบ้านให้มีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม คุณเหออันสือจึงเข้าสู่วงการนี้ และเปิดเพจที่มีชื่อว่า “กล่องเก็บศิลปะ” สำหรับแบ่งปันประสบการณ์การจัดตกแต่งบ้านของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเธอได้สวมชุดกี่เพ้าเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับตนเองด้วย
ในช่วงแรก เธอได้รับงานเพียง 1-2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น จนกระทั่งในปีค.ศ.2017 มีการจองคิวประมาณ 10 ครั้งต่อเดือน จนถึงวันนี้คุณเหออันสือได้เปิดเป็นคอร์สฝึกอบรมการจัดตกแต่งบ้านและเป็นวิทยากรไปพูดบรรยายตามที่ต่างๆ ทั้งยังก่อตั้งสมาคมที่ปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้านของไต้หวันที่ใช้ชื่อว่า “Heart, Hope, Space International Organization of Professional Organizers” ซึ่งเมื่อตุลาคม ปีค.ศ.2020 ทางสมาคมฯ ได้จัดให้มีการสอบใบรับรองการเป็นนักจัดระเบียบบ้านขึ้นครั้งแรกในไต้หวัน ทุกครั้งที่เริ่มจัดระเบียบบ้าน เธอจะเห็นความวิตกกังวลและความไม่ค่อยพอใจของลูกค้า จนกระทั่งเมื่อจัดการเสร็จแล้ว รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจจะปรากฏขึ้นมา สร้างความรู้สึกประทับใจให้กับคุณเหออันสือเป็นอย่างยิ่ง

คุณไล่ถิงเหอใช้การเปรียบเทียบสี วัดตัวและวิธีการอื่นๆ มาค้นหาสีกับสไตล์ของเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
หมอจัดตู้เสื้อผ้ามาตรวจอาการแล้วจ้า
การจะเดินบนเส้นทางการจัดระเบียบ จำเป็นต้องหาอัตลักษณ์พิเศษของตนเองด้วย คุณไล่ถิงเหอ (賴庭荷) ใช้ความสามารถด้านแฟชั่นเสื้อผ้าที่ถนัด มาตั้งเป็นแบรนด์ชื่อว่า “หมอจัดตู้เสื้อผ้า หรือ Closet Visitor” เพื่อให้บริการการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าและแนะนำวิธีการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะสม
วันนี้เราติดตามคุณไล่ถิงเหอมาที่บ้านของลูกค้า โดยเธอนำผ้าสำหรับเทียบสีออกมา ก่อนจะปูผ้าสีขาวคลุมไปบนหน้าอกของลูกค้าที่ไม่ได้แต่งหน้า เพื่อเป็นการตัดสีอื่นที่จะมารบกวนออกไป จากนั้นจะเริ่มหยิบผ้ามาเทียบวัดกันครั้งละสองสี โดยใช้หลักของทฤษฎีสีสี่ฤดูกาล โดยแบ่งสีตามธรรมชาติในแต่ละฤดู โดยสีโทนอุ่นเป็นของฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง ส่วนสีโทนเย็นเป็นของฤดูร้อนและฤดูหนาว เช่นเดียวกับสีแดง เหลือง น้ำเงิน เขียว ในสี่ฤดูกาลก็จะมีการเปลี่ยนแปลงของโทนสีและความสว่างที่แตกต่างกันไป
แต่ละคนล้วนมีสีผิว สีปาก และสีตาที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า สีของเสื้อผ้าจะมีผลต่อความเปลี่ยนแปลงของสีบนใบหน้า ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการขับสีผิวให้ดูสดใสขึ้น ก็จำเป็นต้องทดสอบซ้ำๆ จนกระทั่งหาสีของฤดูกาลที่เหมาะสมได้ เพื่อเอาไปใช้อ้างอิงในการเลือกเสื้อผ้าและการแต่งหน้า
คุณไล่ถิงเหอกล่าวว่า การใช้สีตามฤดูกาลมีทั้งสวรรค์และนรก บางทีการใช้ชาร์ตสีมาเลือกเสื้อผ้าเพื่อต้องการค้นหาสีที่เหมาะสม ก็ทำให้สูญเสียความสนุกในการชอปปิงไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นวิธีการใช้ที่เป็นเหมือนสวรรค์ก็คือ ต้องรู้ว่าตนเองเหมาะสมกับสีอะไร โดยจะต้องยึดตัวเองเป็นหลัก คุณไล่ถิงเหอยกตัวอย่างตนเองที่รู้ว่าไม่เหมาะกับสีขาว แต่สีนั้นสอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่เธอต้องการแสดงออกมาก เธอจึงเลือกใช้ผ้าพันคอเป็นสีโทนฤดูใบไม้ร่วงหรือแต่งหน้าให้มีความเหมาะสม เพียงแค่เลือกสีที่จะไปอยู่ใกล้กับใบหน้าให้เหมาะสมกับสีของคุณ ก็สามารถสร้างรูปลักษณ์ที่งดงามออกมาได้แล้ว

คุณไล่ถิงเหอถือว่าเสื้อผ้าเปรียบเสมือนครู ต้องอ่านความสัมพันธ์ของแต่ละคนกับเสื้อผ้าอย่างละเอียด เพื่อหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมและมีความสวยงามเมื่อสวมใส่
เสื้อผ้าที่เหมาะสม ช่วยขับออร่าให้เปล่งประกาย
ตั้งแต่เริ่มรับงานในปีค.ศ.2017 เป็นต้นมา คุณไล่ถิงเหอก็มักจะเห็นผู้ว่าจ้างถูกกระแสนิยมหลักในไต้หวันด้านความงามคือ ขาว ผอม สวย มาเป็นอุปสรรคที่ปิดกั้นมุมมองทัศนคติอยู่บ่อยๆ ทำให้ผู้ว่าจ้างเหล่านี้ให้ความสนใจกับใบหน้าที่ยาวหรือดวงตาที่เล็ก เป็นต้น ซึ่งในสายตาของคุณไล่ถิงเหอกลับมองว่า นี่คืออัตลักษณ์พิเศษของพวกเขา เพียงแค่หาเสื้อผ้าที่เหมาะสมมาสวมใส่ ก็จะช่วยเติมเต็มลักษณะพิเศษของแต่ละบุคคลให้โดดเด่นออกมาได้ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเริ่มวิเคราะห์จากงานที่ผ่านมือของเธอมาแล้วจำนวนหลายร้อยครั้ง เพื่อศึกษาลักษณะของคนแต่ละชาติ ลักษณะพิเศษของเสื้อผ้า และวัสดุที่ใช้ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับรูปทรงของใบหน้าและสัณฐานรูปร่าง จนพัฒนาออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ว่า “บทบาท 3 ประเภทที่เป็นสไตล์พื้นฐาน” เธอจะแบ่งลูกค้าออกเป็น 3 ประเภท คือ ผู้ดูแล ผู้นำ และนักจินตนาการ โดยพิจารณาจากลักษณะใบหน้า ความยาวของใบหน้า และรูปร่าง เพื่อค้นหาหลักการพื้นฐานสำหรับการแต่งกายที่เหมาะสมของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น ผู้นำจะแสดงความรู้สึกถึงพลังอำนาจเมื่อสวมชุดสูทและเสื้อโค้ทในสไตล์ตะวันตก ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งเหล่านี้ไปอยู่กับนักจินตนาการ จะดูเหมือนเด็กที่สวมชุดผู้ใหญ่ ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่ขัดกันเป็นอย่างมาก
ต่อมา เสื้อผ้าทั้งหมดจะถูกนำลงมาจากไม้แขวนในตู้เสื้อผ้า และแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ ชอบ พอใช้ ไม่ชอบ ใช้งานในบ้านได้เรื่อยๆ และของที่ระลึก โดยระหว่างดำเนินการจัดระเบียบ ลูกค้าจะถูกกองเสื้อผ้าที่ผ่านการแยกประเภทรายล้อม คุณไล่ถิงเหอเรียกมันว่า เวทมนตร์แห่งการจัดระเบียบ เมื่อเสื้อถูกจัดวางอยู่ในหมวดหมู่ที่ถูกต้อง ก็จะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นว่าเสื้อผ้าแต่ละชิ้นควรต้องจัดอยู่ในหมวดหมู่ใด ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็เสียดายไม่กล้าทิ้ง เมื่อคิดว่าจะเอาไปจัดอยู่ในประเภทชอบ ในใจจะเกิดคำถามกับตัวเองว่าชอบจริงๆ หรือไม่ โดยระหว่างการแบ่งแยกเสื้อผ้า คุณไล่ถิงเหอจะคอยสังเกตอาการของลูกค้าที่แสดงออกมา โดยเฉพาะเสื้อผ้าในประเภทพอใช้ที่จะถูกผ่านการตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงระหว่างผู้ว่าจ้างกับเสื้อผ้าตัวนั้นว่า อาจจะเป็นญาติพี่น้องซื้อให้ หรืออาจเคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นความทรงจำดีๆ เป็นต้น ทั้งนี้ ก็ยังมีบางคนได้ค้นพบว่า ตนเองเอาชีวิตไปผูกติดไว้กับการประเมินค่าของคนอื่น จนไม่เคยฟังเสียงของตนเองเลย
เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า การแต่งหน้า ทรงผม แว่นตา ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับรูปร่าง และอยู่ในขอบเขตที่คุณไล่ถิงเหอต้องเฝ้าระวังให้กับลูกค้า หลังจากที่จัดระเบียบเสื้อผ้าของลูกค้าเสร็จแล้ว คุณไล่ถิงเหอจะหยิบเสื้อผ้าบางตัวมาจัดเป็นชุดที่เข้ากันได้อย่างเหมาะสม และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแต่งหน้าทำผม คนส่วนใหญ่มักคุ้นชินกับการสวมใส่เสื้อกับกางเกงแบบง่ายๆ แต่สำหรับคุณไล่ถิงเหอแล้ว ความชำนาญในการจัดชุดเสื้อผ้า ทำให้สามารถหยิบชุดเดรสสีเรียบมาเข้าคู่กับเสื้อกั๊กลายดอกเพื่อสร้างไฮไลท์ หรือการสวมเสื้อกลับด้านแบบหน้าหลังเพื่อแก้ไขปัญหาความยาวของใบหน้า เป็นต้น แม้ว่าจะไม่ได้มีรูปลักษณ์เหมือนดารา แต่หากได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม คนๆ นั้นก็จะเปล่งสง่าราศีออกมาได้เช่นกัน
นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ “Closet Visitor” คุณไล่ถิงเหอได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาตลอด ก่อนจะพบว่า ในตู้เสื้อผ้าของแต่ละคน ต่างก็มีศักยภาพในการเปลี่ยนให้เจ้าของมีความงามมากขึ้น เมื่อลูกค้าได้รู้จักตัวเองแล้ว ก็จะไม่ซื้อของแบบไร้จุดหมาย และช่วยให้ผู้คนได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากโลกของ Fast Fashion อันละลานตา ก็เหมือนกับที่
เหออันสือพูดเอาไว้ว่า “整 (เจิ่ง) ” คือการจัดวางสิ่งของบนพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ “理 (หลี่) ” คือการจัดการจิตใจของเจ้าของบ้านที่ว้าวุ่น สับสน และเหนื่อยล้า นักจัดระเบียบจึงเป็นผู้ชี้นำให้คนเหล่านั้นมองเห็นปัญหา มองเห็นแก่นแท้ของความเป็นตัวเอง และช่วยให้พวกเขาได้พบกับชีวิตที่ดียิ่งขึ้น