ชีวิตประจำวันของนักจัดระเบียบบ้าน
คุณเหออันสือ ที่ปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้านของบริษัทกล่องเก็บงานศิลปะเผยว่า การทำความสะอาดบ้านก็คือการจัดการกับความสกปรก เพียงแค่ทำความสะอาดฝุ่นกับสิ่งสกปรกให้หมดจดก็เพียงพอ ขณะที่การจัดระเบียบคือการจัดการกับความยุ่งเหยิง จำเป็นต้องจัดการกับสิ่งของที่วางอยู่อย่างระเกะระกะจนในห้องไม่มีพื้นที่ให้ขยับตัว
นักจัดระเบียบบ้านจะใช้วิธีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์และจัดหาสถานที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของ โดยตระหนักถึงความต้องการของลูกค้าให้มีพื้นที่ใช้สอยได้สะดวกสบาย คุณเหออันสือเคยจัดระเบียบห้องด้วยการปรับเพียงเส้นแบ่งสัดส่วน ก็ทำให้ห้องซึ่งเดิมทีขาดความสวยงาม กลายเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยได้ 4 แบบ คือ ห้องนอน, ห้องรับแขก, ห้องหนังสือ และห้องเล่นโยคะ จนลูกค้าพูดว่า เขารู้สึกพึงพอใจกับห้องนี้มากที่สุดในชีวิต
นักจัดระเบียบบ้านมักต้องรับมือกับเรื่องอารมณ์ของลูกค้า บางทีจัดไปได้ครึ่งหนึ่ง ลูกค้าก็แสดงความโกรธไม่พอใจ หรือบางทีรู้สึกผิดหวังจากการเห็นสิ่งของมากมายถูกใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือบางทีสมาชิกในครอบครัวก็ทะเลาะกันระหว่างการจัดระเบียบ ทำให้บางครั้งนักจัดระเบียบบ้านไม่เพียงแค่ต้องตกแต่งพื้นที่ให้สวยงาม แต่ยังจำเป็นต้องค้นหาต้นตอของปัญหาออกมาให้ได้ด้วย คุณผู้หญิงท่านหนึ่งได้จ้างให้คุณเหออันสือมาช่วยจัดการห้องอาหาร แต่ความที่สามีและภรรยาต่างมีความคิดเห็นเป็นของตน จึงต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นจนทราบว่า ฝ่ายภรรยาหวังให้มีโต๊ะรับประทานอาหารร่วมกันเหมือนสมัยเด็ก เพื่อแบ่งปันความทรงจำดีๆ ในชีวิตให้ลูกหลานฟัง ขณะที่ฝ่ายสามีรับประทานอาหารในห้องรับแขกมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นในกรณีนี้แม้ห้องอาหารจะถูกตกแต่งออกแบบอย่างสวยงาม สถานการณ์ก็อาจจะไม่ดีขึ้น แต่เมื่อคุณเหออันสือได้ค้นพบต้นตอของปัญหา และทำให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันได้ จึงค่อยดำเนินการจัดระเบียบบ้านให้แล้วเสร็จ สร้างบรรยากาศที่ครอบครัวต้องการร่วมกัน
การเป็นนักจัดระเบียบบ้าน ไม่เพียงต้องมีทักษะในการวางแผนพื้นที่ใช้สอยและการจัดเก็บสิ่งของ แต่ยังต้องรู้จักสื่อสาร ทำความเข้าใจ และเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากยิ่งขึ้น
คุณไล่ถิงเหอ (ซ้าย) นำเสื้อผ้าทั้งหมดลงมาจากราว และขอให้ลูกค้าแยกประเภท ในระหว่างการตัดสินใจ ลูกค้าจะรู้สึกถึงความชอบหรือไม่ชอบของ ตัวเองได้ชัดเจนขึ้น