ยืนหยัดต่อสู้ปักรากฐานที่บ้านเกิด
สัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมของเหม่ยหนง แปรเปลี่ยนตลอดเวลาตามยุคสมัย นับตั้งแต่การสร้างตงเหมินโหลว (ประตูเมืองทางทิศตะวันออก) และเตาเผากระดาษจิ้งจื้อถิงในสมัยราชวงศ์ชิง กระทั่งในเวลาต่อมา กลายเป็น ก๋วยเตี๋ยวฮากกา ร่มกระดาษน้ำมันเหม่ยหนง ที่เป็นภาพลักษณ์ของหมู่บ้านฮากกา มาถึงในยุคใกล้ก็จะมีคุณจงหลี่เหอ (鍾理和) นักวรรณกรรม คุณจงเที่ยหมิน (鍾鐵民) และวงดุริยางค์เซิงเสียง ในฐานะตัวแทนศิลปวัฒนธรรมของที่นี่
เห็นได้ชัดว่า ตำบลเล็ก ๆ อย่างเหม่ยหนง ไม่เพียงแต่จะมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรม หากแต่ยังเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา มีคนกล่าวไว้ว่า การอยู่ในพื้นที่ปิดซึ่งการคมนาคมไม่สะดวก โดยมีภูเขาฉาติ่งซาน ภูเขาเยว่กวงซาน และแม่น้ำเหล่าหนงซี มากั้นเอาไว้ ทำให้วัฒนธรรมของที่นี่ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างสมบูรณ์ และในหมู่บ้านที่มีความอนุรักษนิยมแห่งนี้ กลับยืนอยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้เพื่ออนุรักษ์ถิ่นกำเนิด การปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างบรรยากาศของชุมชน
ด้วยเหตุนี้ หากจะกล่าวเพียงว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดจากสภาพแวดล้อมแบบปิด ก็น่าจะบอกว่าเป็นการสืบสานอย่างต่อเนื่องของจิตวิญญาณแห่งความเป็นชาวฮากกาที่ได้รับการถ่ายทอดและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกัน จากอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ต้องปากกัดตีนถีบ ชาวบ้านต้องต่อสู้อย่างขยันขันแข็งเพื่อความอยู่รอด จนถึงปัจจุบันที่ได้แปรเปลี่ยนไปสู่การยอมรับอย่างแรงกล้าต่อบ้านเกิด ตลอดจนการยืนหยัดอย่างมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรโดยง่าย
ก่อนที่จะอำลาจากกันในครั้งนี้ เราร่วมงานปิกนิกที่ด้านข้างของศาลเจ้าที่ปั๋วกงโกวฝูเต๋อฉือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดป๋อกง” ซึ่งมีคุณชิวกั๋วหยวนเป็นเจ้าภาพ ผู้ร่วมงานเป็นคนในพื้นที่อย่าง อาทิ คุณหวงเซินซง ผู้ก่อตั้งนิตยสาร “เหม่ยหนงวันนี้” คุณเวินจ้งเหลียง (溫仲良) นายกสมาคมชนบทศึกษาเหม่ยหนง
แม้จะต่างรุ่นกัน แต่พวกเขาล้วนมีอุดมการณ์ที่ต้องการกลับจากต่างถิ่นสู่บ้านเกิด พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเหม่ยหนง อย่างคึกคัก ต่างฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็นของตนอย่างเต็มที่
ในงานปิกนิกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวา ทำให้มีความเข้าใจที่นี่มากขึ้น เช่นเดียวกับที่คุณจงหลี่เหอได้กล่าวออกมาจากใจว่า “เลือดของคนในท้องถิ่น ต้องไหลกลับสู่บ้านเกิด จึงจะหยุดเดือดพล่าน” และเนื่องจากเป็นเพราะความหวังที่อยากจะกลับมาลงหลักปักฐานยังบ้านเกิดของตน ตลอดจนความภูมิใจที่มีต่อบ้านเกิด จึงกระตุ้นให้ชาวเหม่ยหนงรุ่นแล้วรุ่นเล่า พร้อมที่จะสละการใช้ชีวิตสุขสบายในเมืองใหญ่ เพื่อกลับมาต่อสู้ดิ้นรนที่บ้านเกิดของตน
บุคคลเหล่านี้ ทำให้รากเหง้าแห่งหมู่บ้านเหม่ยหนงถูกสั่งสมอย่างต่อเนื่อง และคงความมีชีวิตชีวาให้สดชื่นแจ่มใสต่อไปอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับความหอมหวานมีชีวิตชีวาของไชโป้วเก่าที่เหล่าคุณแม่ชาวฮากกาเก็บสะสมไว้นั่นเอง
เยาวชนคนรุ่นใหม่ต่างรุ่น พากันกลับมาบ้านเกิดที่เหม่ยหนง จากซ้าย คุณเวินจ้งเหลียง ชิวกั๋วหยวน และคุณหวงเซินซง
ชาวเหม่ยหนงไม่เพียงแต่ถือว่าร่มกระดาษน้ำมันเป็นของใช้ประจำวันเท่านั้น หากยังได้รวมเอาวัฒนธรรมพื้นเมืองดั้งเดิมหลอมรวมเข้าไปด้วย กลายเป็นตัวแทนแห่งงานหัตถศิลป์ที่สำคัญของท้องถิ่นนี้ด้วย