อาหารท้องถิ่นของพื้นที่ดินเค็ม
เจิงผิ่นชาง (曾品滄) รองนักวิจัยด้านประวัติศาสตร์ไต้หวันของสภาวิจัยแห่งชาติ ที่ศึกษาด้านวัฒนธรรมการกินของไต้หวันในเชิงลึกเห็นว่า การกินอาหารหมักดองในไต้หวันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ชาวบ้านในพื้นที่แถบฮกเกี้ยน กวางตุ้ง และตามชายฝั่งตะวันตกของไต้หวัน จะนำเอากุ้ง หอยหรือปลาสดมาหมักเพื่อเก็บรักษาไว้ ก่อนจะนำมาทำเป็นซอสน้ำปลา ซึ่งในตอนที่เจิงผิ่นชางค้นคว้าเกี่ยวกับตระกูลผู้ดีของไต้หวันในยุคราชวงศ์ชิงพบว่า ในสมุดบันทึกของตระกูลหลินแห่งอู้ฟงในนครไทจง ได้มีการจดบันทึกถึงการรับประทานอาหารหมักดอง โดยได้เขียนอย่างละเอียดถึงการดองหอยนางรม ดองหอยตาวัว และดองปลาซาร์ดีน
แม้ว่าจะมีการรับประทานอาหารทะเลดองในหลายพื้นที่ทั่วไต้หวัน จางผิ่นชางชี้ว่า อาหารหมักดองถือเป็นของจำเป็นที่ขาดไม่ได้ สำหรับชาวบ้านในแถบชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้
พื้นที่แถบชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน เคยเป็นทะเลในหรือทะเลสาบน้ำเค็มไถเจียง และทะเลสาบน้ำเค็มเต้าฟง ในพื้นที่มีสันทรายและป่าชายเลนเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีแม่น้ำที่เส้นทางการไหลมักจะเปลี่ยนไปมาและเอ่อท่วมอยู่เสมอ การที่สภาพแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง อีกทั้งดินก็มีเกลือผสมอยู่ปริมาณมาก ประกอบกับจะมีพายุทรายในช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้ไม่เหưมาะสำหรับการเพาะปลูก ชาวบ้านในแถบนี้จึงทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำประมง เลี้ยงสัตว์น้ำ หรือทำนาเกลือเป็นหลัก
ปลาและกุ้งตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในทะเลสาบน้ำเค็ม ประกอบกับมีการทำนาเกลือเป็นจำนวนมาก ทำให้เหล่าเด็กและสตรีในพื้นที่ มักจะคอยจับกุ้งหอยปูปลาในเขตน้ำขึ้นน้ำลง มาหมักกับเกลือเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ และการที่เก็บเอาไว้ได้นาน ทำให้ไม่เพียงแต่จะสามารถเก็บไว้รับประทานเองในบ้าน แต่ยังสามารถส่งไปขายในเมืองได้ด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้อาหารทะเลดองกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินอยู่ที่สำคัญของชาวบ้านในแถบพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกได้เป็นอย่างดี
ไช่เติงจิ้น นายกสมาคมพัฒนาชุมชนลู่เอ่อ สาธิตวิธีการดองหอยนางรม และแบ่งปันรสชาติในวัยเด็กของเขาให้กับพวกเรา
คนสมัยก่อนดองหอยนางรมด้วยเกลือเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ผู้คนนิยมใส่แผ่นขิงลงไปเพื่อดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหอม