ถนน Calligraphy Greenway หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า เฉ่าอู้เต้า (草悟道) หมายถึงถนนที่มีความงดงามไหลลื่น และเป็นธรรมชาติปานประหน่งึ งานวิจิตรลายเส้นอักษร จีน ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกลางนครไทจง กลายเป็นหนึ่ง ในสถานทที่ อ่ งเทยี่ วทไี่ ดร้ บั ความนยิ มเปน็ อยา่ งมากในชว่ ง หลายปีมานี้ เพราะบนถนนสายนี้ไม่เพียงแต่มีห้างสรรพ สินค้า โรงแรม พลาซ่า และลานทุ่งหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ เท่านั้น แต่ตามตรอกซอกซอยเก่าแก่โบราณก็ยังเต็มไป ด้วยเสน่ห์ของร้านค้าเล็กๆ ที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและของใช้จำเป็นใน ชีวิตประจำวันทุกอย่างด้วย
ถ้าจะบอกว่าตรอกซอยเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของย่าน การค้า ควรบอกว่ามันก่อรูปขึ้นเป็นชุมชนแห่งวิถีชีวิตที่ เป็นเอกลักษณ์ของผู้คนที่นี่เองน่าจะถูกต้องมากกว่า ความหลากหลายในไลฟ์สไตล์ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ และรีโนเวทสิ่งก่อสร้างเก่าๆ เป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่อง เที่ยว เพราะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นที่หลบแสงสี และเติมธรรมชาติให้แก่ชีวิต ท่ามกลางป่าคอนกรีตสูง ระฟ้าที่กดดันผู้คนแม้หายใจก็ยังลำบาก
จากไถวันต้าเต้า (臺灣大道) ถนนที่การจราจรพลุก พล่านที่สุดของนครไทจงเลี้ยวเข้าสู่ถนนจงซิง (中興街) แล้ววิ่งไปเรื่อยตามเส้นทาง Calligraphy Greenway ทรี่ ม่ รนื่ ไปดว้ ยปา่ ไมเ้ รยี งรายสอดแทรกอยรู่ ะหวา่ งอาคาร สูงระฟ้ายาวไม่ถึง 1 กิโลเมตร ภาพทิวทัศน์ที่ผสมผสาน ระหว่างสิ่งปลูกสร้างเก่าและใหม่ ก็ปรากฏขึ้นอยู่เบื้อง หน้า
พ้นื ท่นี ้แี วดล้อมไปด้วยอาคารสูงประสมประสานไปกับ พื้นที่สีเขียว ลานพลาซ่า และประติมากรรมต่างๆซึ่งถูก สร้างขึ้นมาใหม่ ขณะที่อีกด้านหนึ่งกลับมีบ้านเรือนเก่าแก่ กระจัดกระจายอยู่ระหว่างตรอกซอกซอยต่างๆ โดยมิได้ ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่กลับมีการออกแบบใน เชิงสร้างสรรค์บวกกับสุนทรียศาสตร์ ผสมผสานให้ฟื้นคืน มาอย่างมีชีวิตชีวาใหม่อีกครั้ง บริเวณย่านเมืองเก่าแห่ง นี้มีผู้คนหลากเพศหลายวัยอาศัยอยู่ พวกเขาเดินไปมาบน ผืนดินแห่งนี้ที่คุ้นเคย และยังคงใช้ชีวิตตามแบบฉบับของ ตนเองต่อไป
ที่นี่มีทั้งร้านหนังสืออินดี้ ร้านขนมหวาน ช่างฝีมือ หัตถกรรม ร้านโชว์ห่วยสินค้าเกษตร ที่ดึงดูดให้บรรดา ดีไซเนอร์ จิตรกร และนักแสดงมาชุมนุมกัน จนเกิดเป็นวิถี ชุมชนที่มีรูปแบบชีวิตอันหลากหลาย อาคารบ้านเรือนที่ พวกเขาใช้เป็นที่ดำรงชีวิตล้วนมีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ทั้งสิ้น การปรับปรุงแต่งโฉมใหม่ โดยคงสภาพความเก่าแก่ ภายนอกไว้และเติมแต่งการออกแบบอันทันสมัยลงไป จน กลายเป็นร้านค้าและท่อี ย่อู าศัยท่กี ลมกลืนกันอย่างลงตัว ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมและความมีชีวิตชีวาข้นึ มาโดยไม่ ได้ทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบสงบเลยแม้แต่น้อย
“พวกเราต้องการกระตุ้นและฟื้นฟูให้สิ่งปลูกสร้าง เก่าเหล่านี้ ให้กลับมามีพลังชีวิตที่คึกคัก โดยไม่ทำลาย โครงสร้างของมัน มีการนำแนวคิดสถาปัตยกรรมเชิง นิเวศมาใช้ออกแบบโครงสร้างของอาคารทรุดโทรมและ ถูกทิ้งให้ว่างเปล่าเหล่านี้ จนกลายเป็นสถานที่ดำเนิน ชีวิตอย่างสร้างสรรค์” นายจงจวิ้นเยี่ยน (鍾俊彥 หรือ Alex Chung) กรรมการผู้จัดการบริษัท Fantasy Story Company กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ซ่อมแซu3617 ม รีโนเวทบ้านเก่ากว่า 20 หลัง มีผู้ประกอบการธุรกิจขนาด เล็กมาขอเช่าไปแล้ว 60 ราย ทั้งยังนำเอาแนวความคิดใน การพัฒนาชุมชนและการบ่มเพาะวิสาหกิจมาใช้ทำให้เขต เมืองเก่าของนครไทจง พลิกโฉมกลายเป็นศูนย์กลางแห่ง ใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต
ฟื้นฟูวิถีชุมชนไปพร้อมกับการปฏิรูป ผังเมือง
หลังการสัมภาษณ์นายจงจวิ้นเยี่ยน ในบ่ายวันนั้นแล้ว พวกเราได้เดินเตร่ลัดเลาะไปตามลานพลาซ่าข้างทาง Calligraphy Greenway ระหว่างนั้นมีชายหนุ่มคน หนึ่งบนร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักปั่นจักรยานสวนทาง มา เขาทักทายนายจงจวิ้นเยี่ยนอย่างเป็นกันเองแล้วก็ ปั่นจักรยานจากไป นายจงจวิ้นเยี่ยนกล่าวว่า ชายหนุ่ม ผู้นี้อาศัยอยู่ในซอยข้างๆ โครงการแสงสีเขียว (Green Ray Project) นี้เอง ตอนเริ่มดำเนินการใหม่ๆ มีเพื่อน บ้านบางคนบ่นว่า งานต่อเติมเสริมแต่งบ้านของเขา ส่ง เสยี งดงั รบกวนชาวบา้ นโดยทคี่ นงานยงั ไมท่ นั กลา่ วคำขอ โทษ ชายหนุ่มผู้นี้ก็โพล่งออกมาทันทีว่า “จะต่อว่าอะไร กัน รอให้พวกเขาทำเสร็จก่อนเถอะ พวกคุณจะต้องขอบ อกขอบใจพวกเขาแน่ๆ” เพราะชายผู้นี้อาศัยอยู่ที่นี่มาตั้ง แต่เด็กๆ และเห็นว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโครงการของ Fantasy Story นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่ เขาสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง
การดำเนินการก่อสร้างโครงการของ Fantasy Story ไม่เคยถูกชาวบ้านต่อต้านเลยยังได้รับการต้อนรับเสียด้วย ซ้ำ แตกต่างจากการดำเนินการของบริษัทก่อสร้างราย อื่นๆ อย่างเช่น การผลักดันโครงการแสงสีเขียว Green Ray Project ในปี ค.ศ.2013 หลังผ่านการออกแบบ วางแผนและปรับปรุงใหม่ ทำให้หอพักเก่าของการประปา ที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 20 ปีซึ่งเดิมทีสกปรกรกร้างกลับ มาสะอาดสะอ้าน น่าอยู่และเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชวา โดย ไม่มีการเปล่ยี นแปลงภูมิทัศน์ของถนนหนทางไม่มีตึกราม บ้านช่องที่สูง และไม่มีป้ายโฆษณาที่เกะกะไร้ระเบียบรก สายตา บ้านเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่น ต้นไม้ใหญ่แตกใบเขียวชอุ่ม กับผนังกำแพงที่กระดำกระด่างก็ถูกรักษาสภาพไว้แบบ นั้น จนกลายเป็นเสน่ห์ของ Green Ray Project ที่คงอยู่ มาจนถึงวันนี้
ร้านที่จำหน่ายสินค้าในบริเวณนี้ ประกอบด้วยร้าน จำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องประดับ ร่ม ถุงเท้า รองเท้า เครื่องหนัง หรือเป็นร้านตัดผม ร้านกาแฟ และร้านขาย ของชำสไตล์อเมริกัน ฯลฯ รวมทั้งหมด 18 ร้าน และยัง มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ สำหรับชาวบ้านในละแวกนี้ แล้ว วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของพวกเขาไม่ถูกรบกวนใดๆ แต่ กลับกลายเป็นความสะดวกสบายมากกว่าเดิม นักพัฒนา และร้านค้าได้ช่วยกันอนุรักษ์บรรยากาศเดิมๆ ตามตรอก ซอยต่างๆ สร้างพื้นที่ให้มีความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง ลด บรรยากาศของการค้าขาย และเพิ่มความรู้สึกที่หวงแหน ผืนแผ่นดินนี้มากขึ้น แนวความคิดนี้ได้ถูกสานต่อไปยังการ รีโนเวทอาคารเก่าแก่ในย่านอื่นๆ ของนครไถจงด้วย
กลิ่นอายแห่งโอกาสทางธุรกิจตลบ อบอวล
เมื่อปีค.ศ.2007 Calligraphy Greenway ของนคร ไถจงได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แผน Green belt โครงการ ก่อสร้างอาคารและตึกสูงผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกด้าน คือตรอกซอยเก่าแก่ที่ยังคงไร้ชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างกันโดย สิ้นเชิง ยุคสมัยกับความทรงจำถูกแยกออกจากกันด้วย แผ่นสังกะสีล้อมไซต์งาน ผู้คนชื่นชมแต่สิ่งก่อสร้างใหม่ๆ โดยไม่มีใครสนใจใยดีกับบ้านเก่ารกร้าง
เมื่อปี ค.ศ.2009 ขณะนั้นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ยัง ไม่ได้เปิดให้บริการ ลาน Citizens’ Plaza ก็เพิ่งสร้างเสร็จ ธุรกิจการค้ารอบๆ บริเวณนี้ยังไม่คึกคักเท่าที่ควรแต่เริ่ม มองเห็นแววศักยภาพการพัฒนาในอนาคต ย่านนี้มีตรอก ซอยและบ้านเรือนเก่าแก่จำนวนมาก ราคาไม่แพง แม้จะ ให้เช่าในราคาถูกก็ไม่มีคนสนใจ ซึ่งหนึ่งในเจ้าของบ้านเก่า เหล่านั้นก็คือพี่สาวของนายจงจวิ้นเยี่ยนนั่นเอง
“ตอนผมเริ่มทำงานใหม่ ผมรับเหมางานโครงการ สาธารณูปโภคและอาคารขนาดใหญ่จำนวนมาก บอก ตามตรงว่าก็รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งใจและกายเหมือนกัน แต่ก็ได้ รับปากพี่สาวไว้ว่าจะช่วยปรับปรุงบ้านเก่าให้” นายจง จวิ้นเยี่ยนกล่าวว่า หลังทำการรีโนเวทบ้านแล้ว ก็ทำให้ บ้านมีพื้นที่กว้างขึ้น ประกอบกับมีการออกแบบให้เหมาะ สมกับการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็น่าจะปล่อยเช่าออกไป ได้ไม่ยาก แต่คิดไม่ถึงว่าผ่านมาแล้วหลายเดือน บ้านก็ยัง ปล่อยเช่าไม่ออกตามเดิม
นายจงจวนิ้ เยยี่ นไดน้ ำปญั หาดงั กลา่ วไปหารอื กบั เพอื่ น ร่วมงาน พร้อมทั้งทำการสำรวจตลาด พวกเขาพบว่าการ เปิดตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้คนรุ่นใหม่ จำนวนไม่น้อยอยากสร้างธุรกิจในพื้นที่แห่งนี้ แต่พวกเขามี ต้นทุนในการเช่าพื้นที่ประมาณ 10,000 – 20,000 เหรียญ ไต้หวันต่อเดือนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พื้นที่ว่างขนาดใหญ่จึงไม่ ได้รับความสนใจ
เมื่อเห็นอุปสงค์ ก็ต้องหาทางตอบสนอง นายจงจวิ้น- เยี่ยนได้ลงมือทันทีเพื่อรีโนเวทพื้นที่ใหม่ด้วยการนำบ้าน เก่าสองชั้น มาตกแต่งแบ่งเป็นร้านค้าขนาดเล็กจำนวน 7 ห้อง แต่ละห้องมีค่าเช่ารายเดือนไม่ถึง 20,000 เหรียญ ไต้หวัน ปรากฏว่า เพียงเดือนเดียวก็ถูกเช่าออกไปจนหมด ที่นี่คือร้านหมายเลข 1 ของ Fantasy Story นับว่าประสบ ความสำเร็จอย่างที่คาดคิดไม่ถึง ในปีค.ศ. 2011 นายจง จวิ้นเยี่ยนก่อตั้งบริษัท Fantasy Story อย่างเป็นทางu3585 การ ขึ้นที่ร้านหมายเลข 1 ในตรอกแห่งนี้ และดำเนินการ รีโนเวทอาคารเก่าอีก 4 หลัง
ลุคใหม่เมืองโบราณบนถนนสายเก่า
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้การพัฒนาย่านธุรกิจในนครไทจงได้ ขยายตัวไปทางเขตพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมือง ซึ่งมีทั้งห้าง สรรพสินค้าใหม่ และอาคารบ้านเรือนอันหรูหราที่ทยอย ก่อสร้างแล้วเสร็จ จนกลายเป็นศูนย์กลางจรัสแสงแห่ง ใหม่ของเมือง
ผังเมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยญี่ปุ่นเข้ายึดครองไต้หวัน ความคึกคักของเขตดาวน์ทาวน์ในอดีตจนได้รับการขนาน นามว่า “เกียวโตน้อย” ไม่เหลือให้ได้เห็นกันอีกแล้ว บริเวณ พนื้ ทตี่ อนกลางหนา้ สถานรี ถไฟซงึ่ เคยเปน็ ยา่ นการคา้ ขาย ที่เจริญรุ่งเรือง ปัจจุบันก็ค่อยๆ ซบเซาและเงียบเหงาไป ตามกาลเวลา
จนกระทั่งปี ค.ศ.2011 บริษัท Dawn Cake Group ไอศกรีมและขนมหวานชื่อดังได้เข้ามาบูรณะอาคาร Miyahara (คลินิกจักษุแพทย์เก่าที่ชาวญี่ปุ่นสร้าง ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1927) ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง รูป แบบของการรีโนเวทบ้านเก่าที่ผสมผสานกับความคิด สร้างสรรค์ของนักออกแบบรุ่นใหม่ได้รับคำชื่นชมเป็น อย่างมาก บริเวณใกล้เคียงอย่างธนาคาร The Fourth Credit Cooperation และโรงแรมเป๋าเต่า (寶島大飯 店-53hotel) ก็ถูกปรับปรุงซ่อมแซมในเวลาต่อมา และ กลายเปน็ ทอ่ หลอ่ เลยี้ งทชี่ ว่ ยขบั เคลอื่ นเขตเมอื งเกา่ ใหก้ ลบั มามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ในช่วงการฟื้นฟูบูรณะอาคารเก่าแก่ ไม่ว่าจะโดยบริษัท Fantasy Story หรือ Dawn Cake Group ล้วนเน้น ย้ำถึงหัวใจสำคัญคือ “อนุรักษ์บริบทของประวัติศาสตร์ และแต่งเติมรายละเอียดด้วยความคิดสร้างสรรค์” ในย่าน ตรอกโบราณแหง่ นมี้ สี งิ่ กอ่ สรา้ งบางสว่ นทเี่ ปน็ อาคารเกา่ แก่ แต่ภายในกลับรวบรวมสิ่งใหม่ๆ เอาไว้ อาทิ ไอศกรีม ชานมไข่มุก สินค้าหัตถกรรม และเสื้อผ้าแฟชั่นนำสมัย ซึ่ง พลิกโฉมหน้าใหม่ให้แก่เมืองเก่าแห่งนี้
เมื่อเมล็ดที่หว่านหยั่งรากลึก ความ เฟื่องฟูก็แตกกิ่งก้านสาขา
เชื่อหรือไม่? จากหนึ่งร้านเพิ่มเป็น 60 ร้าน ซึ่งจริงๆ แล้วบนถนน Calligraphy Greenway สายนี้ไม่ได้มีเพียง บริษัท Fantasy Story เท่านั้น แต่ยังมีเจ้าของบ้าน ผู้รับ เหมาก่อสร้าง และนักออกแบบจำนวนมากที่เห็นโอกาส ทองเช่นนี้ จนเกิดเป็นกระแสของการรีโนเวทบ้านเก่าผุด ขึ้นมาไปทั่ว
เมื่อผู้คนหลากหลายอาชีพและต่างความคิดได้ร่วมตัว กันที่นี่ ก็ก่อเกิดไอเดียใหม่ๆ ระหว่างร้านค้าข้ามเขตร่วม มือและช่วยประชาสัมพันธ์ส่งเสริมซึ่งกันและกัน จนกลาย เป็นความได้เปรียบในการทำการตลาดร่วมกัน
และเพื่อให้ร้านค้าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมกับ การเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท Fantasy Story ยังได้ แนะนำวิธีสรรสร้างนวัตกรรมใหม่และแนวความคิดการ บ่มเพาะวิสาหกิจมาใช้มีการเชิญผ้เู ช่ยี วชาญมาบรรยาย ให้ความรู้ และจัดหลักสูตรหรือให้คำปรึกษาแก่ร้านค้า ครบด้าน
บริษัท Fantasy Story แม้จะมีบทบาทคล้ายเป็น “ผู้ให้เช่าช่วง” แต่ความเป็นจริงที่ทำให้บริษัทอยู่รอดได้นั้น ไม่ได้มากจากการเก็บเงินค่าเช่าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นแม้ ย่านใกล้เคียงจะมีการปรับค่าเช่าให้สูงขึ้นแล้ว แต่ในช่วง หลายปีที่ผ่านมาบริษัท Fantasy Story ก็ยังคงสามารถ รักษาค่าเช่าให้อย่ใู นระดับตำ่ และหันไปใช้วิธีเก็บเช่าจาก ยอดขายของแต่ละร้านค้า ซึ่งถือว่าเป็นการแบ่งปันความ สำเร็จร่วมกัน และสร้างวัฏจักรที่ดีให้กับธุรกิจในระยะยาว
โมเดลที่เกิดการจากผสมผสานกลไกการฟื้นฟูเมือง ใหม่ การเสริมสร้างชุมชน และการบ่มเพาะธุรกิจเชิง สร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนอย่างกว้าง ขวาง ปัจจุบันพื้นที่เขตชิงสุ่ย นครไทจง, เขตกวนซี เมือง ซินจู๋, เขตอูสือ เมืองอี๋หลาน และเขตโต่วลิ่ว เมืองหยุน หลิน ต่างก็มีชุมชนที่มีแนวการพัฒนาปรับปรุงสภาพภูมิ ทัศน์ของบริษัท Fantasy Story นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ จากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศ เกาหลีใต้ ที่เคยมีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมโครงการดังกล่าว ขณะที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่งจากจีนแผ่น ดินใหญ่ก็อยู่ในระหว่างการเจรจาหารือร่วมมือกับบริษัท Fantasy Story เพื่อวางแผนบูรณะตรอกซอยย่านที่อยู่ อาศัย และหมู่บ้านวัฒนธรรมหูถงของปักกิ่งร่วมกัน ให้ กลายเป็นชุมชนเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตอีกครั้ง
นายจงจวิ้นเยี่ยน ได้แชร์ประโยคที่เขาชื่นชอบว่า “ชีวิต ประจำวันของคุณคือภาพวิวทิวทัศน์ของเราจากแดนไกล” และถือเป็นคอนเซ็ปต์ในการทำงานของบริษัท Fantasy Story เพราะหลากหลายทัศนะในการดำเนินชีวิตที่แสน จะธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น คือทัศนียภาพอัน งดงามและดึงดูดผู้คนได้ดีที่สุด ท่ามกลางความวุ่นวาย ของป่าคอนกรีตกลางเมือง บ้านเก่าทุกหลังกลับฟื้นคืน ชีวิตขึ้นมาใหม่เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น สาดส่องกำแพง เก่าๆ ให้กลายเป็นความทรงจำอันสดใส