การแสวงหาจุดที่เหมือนกันจากพื้นเพแห่งชนบท
การที่คณะสือกู่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของภูมิหลังทางวัฒนธรรมจนได้รับการยอมรับไปทั่ว คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาถูกคัดเลือกจากกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ให้เดินทางไปแสดงในต่างประเทศหลายครั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 ไต้หวันเพิ่งจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดน ประกอบกับเป็นวาระที่ครบรอบ 30 ปี ซึ่งไต้หวันและเวียดนามมีการก่อตั้งสำนักงานตัวแทนของรัฐบาลระหว่างกัน สำนักงานไต้หวันประจำเวียดนามจึงได้จัดงาน “กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไต้หวัน 2022” ขึ้น โดยมีคณะสือกู่เป็นตัวแทนของไต้หวันเดินทางไปเปิดการแสดงแลกเปลี่ยนที่กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ถือเป็นการเปิดการแสดงรอบใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปี ทำให้เหล่านักแสดงต่างก็มีความกระเหี้ยนกระหือรือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงที่ฮานอยจะเป็นการแสดงกลางแจ้งที่จัตุรัส Dong Kinh Nghia Thuc Square ซึ่งมีผู้คนผ่านไปมาคึกคักเป็นอย่างมาก กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันนี้ สามารถดึงดูดผู้ชมได้นับหมื่นคนให้มาชมการแสดง หลินเวยถิง (林威廷) หนึ่งในสมาชิกคณะที่เดินทางไปแสดงที่เวียดนามได้แบ่งปันประสบการณ์ว่า “ยิ่งตียิ่งคึกจริง ๆ”
เซี่ยสือใช้ความคิดหนักมาก ในการจัดโปรแกรมการแสดง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม เขาได้ย้อนรำลึกถึงความประทับใจเมื่อครั้งที่เคยเดินทางไปเยือนเวียดนาม ความเรียบง่ายของบรรยากาศแบบชนบท คล้ายคลึงกับความทรงจำในวัยเด็กของตัวเองเกี่ยวกับไต้หวันเป็นอย่างมาก จึงได้ใช้ไอเดียนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ ก่อนจะคัดเลือกบทเพลง 8 เพลงและเตรียมเพลงสำหรับการอังกอร์ไว้ 2 เพลง โดยใช้แนวคิดหลักจากชนบท งานวัด และป่าเขาลำเนาไพร มาร้อยเรียงเป็นโปรแกรมการแสดงในชุด “ความทรงจำแห่งไต้หวัน”
การแสดงชุดเตี่ยนเจี้ยงลิ่ง (點將令 – คำสั่งแต่งตั้งขุนพล) มีการผสมผสานกับขบวนปาเจียเจี้ยง (8 องครักษ์ในขบวนแห่เจ้า) ซึ่งมีบทบาทเหมือนองครักษ์ของเทพเจ้าที่ออกลาดตระเวนเพื่อไล่จับภูตผีปีศาจ อันถือเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวันทางภาคใต้ ชุดอี้เสี่ยงจือเหมิน (憶想之門 - ประตูแห่งความทรงจำ) ได้บอกเล่าเรื่องราวของจูอีกุ้ย ฮ่องเต้องค์แรกของไต้หวัน แถมยังมีการแสดงชุดจู๋ลู่เย่าต้งอิ้งหมิงถัน (逐鹿躍動映明潭 – ภาพสะท้อนบนทะเลสาบของการไล่กวางที่กระโดดโลดเต้น) ซึ่งใช้เค้าโครงเรื่องจากตำนานพื้นบ้านของชนเผ่าเส้า และการแสดงชุดซานจือห้วน (山之喚 – เสียงเพรียกจากขุนเขา) ที่แสดงให้เห็นถึงภาพอันอลังการของขุนเขาและแมกไม้ที่ภูเขาอาลีซาน
การแสดงชุดชุยหนิวจี (吹牛雞 - ไก่ขี้โม้) ที่ใช้การอุปมาอุปไมยเปรียบเทียบว่าไก่เป็นคนที่โต้เถียงกัน ถือเป็นผลงานที่เซี่ยสือตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น บทเพลงนี้ถูกรวมไว้ใน “เกาะแห่งกลอง” ที่รวบรวมบทเพลงซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่และรางวัลดนตรีอิสระ โดยใช้เครื่องดนตรีมาเลียนแบบเสียงร้องของสัตว์ กลิ่นอายแห่งชนบทที่มีอยู่อย่างเปี่ยมล้น ไม่เพียงแต่จะได้รับการยอมรับจากผู้ชมในเอเชีย หากแต่เมื่อไปแสดงที่ยุโรปและแอฟริกาต่างก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ทำให้การบรรเลงกลองที่เดิมมีแต่ “ความหนักแน่นและลีลา” ถูกเติมแต่งด้วย “อารมณ์ขัน” เซี่ยสือย้ำว่า เนื่องจากมีอารมณ์ขัน ทำให้การบรรเลงกลองที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของความเป็นพิธีการ ถูกปรับเปลี่ยนจนกลายเป็นการแสดงที่เข้าถึงและชื่นชมได้ง่ายขึ้น
นอกจากคณะสือกู่แล้ว สำนักงานตัวแทนไต้หวันในเวียดนามยังได้เชิญคณะนักแสดงจากเวียดนามมาร่วมแลกเปลี่ยนด้วยการขึ้นแสดงบนเวทีด้วย (ภาพจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ไทเป ประจำนครโฮจิมินห์)