“ลมทะเลพัดโชยเบาๆ ที่อ่าวเผิงหู (澎湖灣) ยามค่ำคืน เกลียวคลื่นซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ยามนี้ไม่มีทั้งต้นมะพร้าวและอาทิตย์อัสดง มีเพียงแค่ฟ้าสีคราม” ประโยคนี้เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งของเพลง “อ่าวเผิงหูของคุณยาย” (外婆的澎湖灣) เพลงอมตะที่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยต้องขับร้องทุกครั้งไปเมื่อได้มาเยือนที่เผิงหู และเฉกเช่นเดียวกับที่เนื้อเพลงได้เขียนเอาไว้ ทะเลสีคราม หาดทรายและแสงแดด หรือจะเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟหลากสีสันและงดงามของที่นี่ แต่ละปีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่เกาะแห่งนี้หลายแสนคน
ไม่เพียงแต่คนไต้หวันเท่านั้นที่มีโอกาสได้ดื่มด่ำทัศนียภาพที่สวยงามของเผิงหู เพราะหลายปีที่ผ่านมา เผิงหูพยายามผลักดันการท่องเที่ยวทางทะเลของสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นสมาชิกของคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกแล้ว ยังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมประจำปีของคลับสโมสรดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2018 อีกด้วย และนับเป็นโอกาสดีที่จะแนะนำให้ทั่วโลกได้รู้จักกับเผิงหู
รูปภาพแผนที่ที่ถูกแขวนประดับในห้องรับรองแขกของผู้ว่าการเมืองเผิงหูเมื่อไม่นานนี้ ด้านบนของภาพมีตัวอักษรเขียนว่า ìคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกî (Club of the Most Beautiful Bays in the World, MBBW) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากกว่า 40 พื้นที่ และ 25 ประเทศทั่วโลก นายเฉิน
กวงฟู่ (陳光復) ผู้ว่าการเมืองเผิงหูชี้ไปที่ภาพซึ่งเป็นแผนที่บ้านเกิดของตนเองพร้อมกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ìเมื่อเทียบกับประเทศอื่นแล้ว เผิงหูมีทัศนียภาพของอ่าวที่สวยงามไม่แพ้ประเทศใด เพราะมีทั้งหาดทรายสีขาว และลักษณะทางธรณีวิทยาที่เป็นหินบะซอลต์î
หาดทรายสีขาว ภูมิประเทศหินบะซอลต์ ที่สุดของโลก
ทั่วโลกพบหินภูเขาไฟที่เป็นหินบะซอลต์ทั้งหมด 6 ชนิด ในจำนวนนี้ 5 ชนิดพบอยู่ในเผิงหู โดยในบรรดาเกาะต่างๆ ที่อยู่ในเขตของเมืองเผิงหูทั้ง 99 เกาะนั้น ส่วนใหญ่จะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นหินภูเขาไฟที่เป็นหินบะซอลต์ทั้งสิ้น ยกเว้นเกาะฮัวอวี่ (花嶼) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของเผิงหู ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นหินแอนดีไซต์
ลักษณะภูมิประเทศของเผิงหูที่เป็นหินบะซอลต์นั้น เกิดจากหินหลอมเหลวความร้อนสูงที่ไหลขึ้นมาบนผิวโลกที่เรียกว่า ลาวา เกิดการเย็นตัวในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและกลายสภาพเป็นทัศนียภาพที่แปลกตา อีกทั้งเกิดรอยแตกและรอยแยกตลอดจนรอยเลื่อนเป็นรูปร่างต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น เสาหินหินบะซอลต์ที่มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมเรียงตัวยาวไปตลอดแนวดิ่งดูราวกับหน้าผาหินประหลาด หรือเสาหินที่เป็นแท่งหินหกเหลี่ยมมองเห็นมุมและเหลี่ยมชัดเจน ซึ่งเป็นเสาหินบะซอลต์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีทัศนียภาพของหินบะซอลต์ที่แปลกตาอยู่อีกหลายจุด เช่น ถ้ำวาฬ ตั้งอยู่บนเกาะเสี่ยวเหมิน (小門島) มีลักษณะเป็นหน้าผาหินบะซอลต์ที่เกิดจากการกัดกร่อนของคลื่นและลมทะเลจนกลายเป็นช่องขนาดใหญ่คล้ายกับช่องประตู ส่วนที่เกาะหยวนเป้ยอวี่ (員貝嶼) มีเสาหินที่เกิดรอยแตกเป็นแท่งเรียงกันดูราวกับกระโปรงพลีทที่มีจีบรอบตัว
ทั้งนี้ นอกจากทิวทัศน์ของหินบะซอลต์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังพบ ìสือหู้ (石滬)î ซึ่งเป็นวิธีการจับปลาแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านของเผิงหูกระจายอยู่ทั่วน่านน้ำของเผิงหูกว่า 500 แห่ง
ภาพของก้อนหินที่เรียงซ้อนกันเป็นวง ดูคล้ายกับรูปหัวใจสองดวงที่ตั้งอยู่กลางทะเลของ ìชีเหม่ยสือหู้ (七美石滬)î ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดและคิดว่าเป็นความตั้งใจของคนเผิงหูที่นำหินมาเรียงให้มีลักษณะดังกล่าวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของที่นี่ แต่จริงๆ แล้ว สือหู้แห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่าสามร้อยปี ถูกคิดค้นโดยชาวประมงเผิงหูในสมัยก่อนที่อาศัยความแตกต่างของกระแสน้ำขึ้นน้ำลงในบริเวณเขตน้ำตื้น และใช้หินปะการังหรือหินบะซอลต์ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นมาวางเรียงซ้อนกันเป็นวง และสร้างเป็นเครื่องมือสำหรับการจับปลา
เมื่อเวลาผ่านไป วิธีหาปลาหรือการจับปลาแบบโบราณดังกล่าวค่อยๆ ถูกลบเลือนไป เหลือทิ้งไว้เพียงภาพของก้อนหินที่ถูกตั้งเรียงซ้อนกันเป็นวงของสือหู้ พร้อมกับร่องรอยการชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา ด้วยเหตุนี้ เผิงหูจึงทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์และซ่อมแซมสือหู้ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเชิญชวนชาวบ้านในท้องถิ่นและช่างฝีมือที่รู้จักและมีความชำนาญเรื่องของการสร้างสือหู้แบบดั้งเดิม ก่อตั้งกลุ่มปกป้องและอนุรักษ์ ìสือหู้î ประจำเกาะจี๋เป้ย (吉貝嶼) ซึ่งนอกจากจะได้รับการรับรองจากกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการรักษาความงดงามของชีเหม่ยสือหู้ หรือ สือหู้รูปหัวใจคู่ของชีเหม่ย รวมทั้งสือหู้อื่นๆ ในพื้นที่จี๋เป้ยไว้ได้สำเร็จ
ปัจจุบัน สามารถพบเห็นทัศนียภาพของสือหู้ดักปลาได้ทั่วไปในพื้นที่ทั้ง 5 ตำบลของเมืองเผิงหู โดยเฉพาะบริเวณตอนเหนือสุดของตำบลไป๋ซาที่มีจำนวนของสือหู้มากที่สุด จากการสำรวจยังพบว่า ที่เกาะจี๋เป้ยมีสือหู้ที่มีความเก่าแก่ เป็นสือหู้ขนาดใหญ่ 1 แห่ง และขนาดเล็กอีก 4 แห่ง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ทั้งนี้ ชาวเกาะจี๋เป้ยได้มีการซ่อมแซมและสร้างสือหู้ขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ กระทั่งในปีค.ศ.1950 จำนวนของสือหู้ในเกาะจี๋เป้ยได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 แห่ง และทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็น ìแดนดินถิ่นสือหู้î
อุ่นเครื่องเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพ
การประชุมคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกประจำปี
เกาะถงผัน (桶盤嶼) ชุมชนเอ้อคัน (二崁聚落) ภูเขาขุยปี้ (奎壁山) ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เปรียบได้กับปรากฏการณ์ ìโมเสสแหวกทะเลî และเราสามารถพบเห็นความงดงามทางธรรมชาติของเผิงหูได้ทั่วไป เพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้ง เผิงหูได้วางแผนปลุกกระแสการท่องเที่ยวภายใต้ธีม ìตะลุยเกาะ ตะลอนเที่ยวî โดยนายเฉินกวงฟู่ เปิดเผยว่า เกาะต่างๆ ในเผิงหูทั้ง 99 เกาะ ต่างก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน และมีศักยภาพที่สามารถจะพัฒนาการท่องเที่ยวบนเกาะได้ เผิงหูมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟเป็นประจำทุกปีที่หม่ากง (馬公市) ซึ่งเป็นเมืองเอกของเกาะเผิงหู โดยจัดมานานกว่า 15 ปีแล้ว แต่ในปีนี้ มีการย้ายสถานที่จัดงานไปจัดที่ตำบลอื่นๆ เช่น ที่เกาะชีเหม่ย (七美) และวั่งอัน (望安) เป็นครั้งแรก
และนอกจากส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลแล้ว เผิงหูยังวางแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทางเรือยอร์ชด้วย จากการที่มีข้อจำกัดของทรัพยากรทางทะเลที่ลดลง ประกอบกับชาวประมงท้องถิ่นมีอายุมากขึ้น ทำให้ท่าเรือประมงและท่าเรือทหารที่มีอยู่เดิมกว่า 68 แห่งต้องเผชิญกับการปรับเปลี่ยน เนื่องจากเผิงหูมีทัศนียภาพของอ่าวที่งดงาม จึงตัดสินใจที่จะปรับรูปแบบท่าเรือเก่าที่มีอยู่เหล่านี้ให้เป็นท่าเรือยอร์ชแทน
ดังนั้น ในเดือนมิถุนายนปีนี้ มีการดัดแปลงท่าเรือประมงเดิมแห่งหนึ่งของเขตหม่ากงให้เป็นท่าเทียบเรือยอร์ช โดยคาดว่าจะสามารถรองรับเรือยอร์ชเข้าเทียบจอดได้ราว 55 ลำ และในอนาคต นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือยอร์ชมาท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก สามารถจอดเรือเพื่อดื่มด่ำความสวยงามของเกาะแก่งต่างๆ ในละแวกเผิงหู รวมทั้งจอดเรือไว้ที่อ่าวเพื่อชื่นชมดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน
ìเทศกาลล่องเรือยอร์ชî ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นการเปิดตัวการส่งเสริมการท่องเที่ยวเผิงหูด้วยเรือยอร์ชเช่นกัน โดยในปีหน้าจะมีการจัดงานมหกรรมเรือยอร์ชนานาชาติขึ้นที่เผิงหูด้วย นายเฉินกวงฟู่เปิดเผยว่า มหกรรมเรือยอร์ชนานาชาติที่จัดขึ้นที่นครเกาสงเมื่อปีที่แล้ว มีเงินสะพัดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 4,000 พันล้านเหรียญไต้หวันภายใน 4 วัน เมื่อเปลี่ยนไปจัดที่เผิงหูคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ไม่แพ้กัน
การจัดงานเทศกาลล่องเรือยอร์ชดังกล่าว ไม่เพียงเป็นการผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเรือยอร์ชของเผิงหูเท่านั้น แต่ยังเป็นการอุ่นเครื่องเพื่อเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ìการประชุมประจำปีของคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกî ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.2018 อีกด้วย
เผิงหูมีธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษและสวยงามจนเป็นที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่เป็นแนวยาว หาดทรายขาวสะอาด หรือลักษณะภูมิประเทศหินบะซอลต์ที่งดงามแปลกตา เผิงหูพยายามขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกตั้งแต่ปีค.ศ.2010 และใช้เวลากว่าสองปี จึงได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิกของคลับสโมสรดังกล่าวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีค.ศ.2012
ทั้งนี้ เผิงหูจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในประเด็นต่างๆ อาทิ การบริหารจัดการสภาพแวดล้อมทางทะเล และการรักษามรดกวัฒนธรรมอ่าว ร่วมกับประเทศสมาชิกของคลับสโมสรดังกล่าวมากขึ้น โดยเมื่อต้นปีค.ศ.2016 ที่ผ่านมา เผิงหูสามารถเอาชนะเมืองบาร์เซโลนาของสเปน และได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมประจำปีของคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกในปี 2018 ได้สำเร็จ ในการคัดเลือกเจ้าภาพจัดงานประชุมประจำปีที่ประเทศฟิลิปปินส์
เผิงหูถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2018 ด้วยเหตุผลสำคัญคือ มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามและมีการอนุรักษ์ระบบนิเวศควบคู่กัน นายเฉินกวงฟู่เปิดเผยว่า เผิงหูมีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และมีศักยภาพเพียงพอที่จะประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักบนเวทีนานาชาติ การเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมประจำปี ไม่เพียงเป็นการส่งเสริมให้ทั่วโลกรู้จักเผิงหูมากขึ้น แต่ยังเป็นเวทีที่ดีสำหรับการแนะนำไต้หวันให้เป็นที่รู้จักเช่นกัน
เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมกับการเป็นเจ้าภาพจัดงานในเดือนตุลาคมปีหน้า กิจกรรมต่างๆ จึงถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากมหกรรมเรือยอร์ชนานาชาติแล้ว เผิงหูยังเตรียมจัดเทศกาลอาหารนานาชาติอีกด้วย การจัดเทศกาลอาหารนานาชาติครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศรู้จักการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นของเผิงหู เช่น ต้นฟงหรูหรือเซียงหรู (พืชสมุนไพรของชาวจีนชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณในการลดไข้และบรรเทาปวด) และปลาช่อนทะเล มาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านสไตล์เผิงหู นอกจากนี้ เผิงหูยังร่วมกับนครเกาสงซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของเกาะไต้หวัน จัดงาน Global Harbor Cities Forum (GHCF) ในปีเดียวกับที่มีการจัดการประชุมคลับสโมสรอ่าวที่สวยที่สุดในโลกประจำปี โดยจะมีการเชิญนักวิชาการจากนานาประเทศมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน มนต์เสน่ห์ที่ไม่แพ้ความงดงามของอ่าว
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน คือมนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเผิงหูที่โดดเด่นไม่แพ้ทัศนียภาพที่งดงามของอ่าว ถนนจงยาง (中央街) ในเขตเทศบาลหม่ากงถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของที่นี่ โดยมีการขยายตัวออกไปยังบริเวณรอบๆ ที่เรียกว่า ìชีเจียอีซื่อî (七街一市) อันประกอบไปด้วยถนน 7 สาย และตลาด 1 แห่ง ในละแวกศาลเจ้าแม่ทับทิม และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักอาศัยมากที่สุด
Central Hostel (หรือในชื่อภาษาจีนว่า 中央旅社) เป็นที่พักเก่าแก่ที่เปิดให้บริการเป็นรายแรกๆ ในเผิงหู ตั้งอยู่สุดถนนจงยาง ภายนอกของตัวอาคารยังคงลักษณะของหน้าต่างลูกกรงไม้ที่ดูเหมือนกระดองเต่า และกำแพงด้านนอกเป็นการก่อสร้างโดยใช้หินล้าง ซึ่งก่อนการปรับปรุงนั้น ภายในอาคารมีบันไดขึ้นไปยังชั้นบนของตัวอาคารที่ปูด้วยกระเบื้องโมเสก ส่วนที่ด้านนอกของตัวอาคารบริเวณชั้นสองมีป้ายนามสกุลของตระกูลติดเอาไว้ และปัจจุบันยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเดินตามถนนเข้าไปด้านใน จะพบกับศาลเจ้าแม่ทับทิมเก่าแก่ (天后宮 เทียนโฮ่วกง) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานเก่าแก่ระดับหนึ่ง และเป็นจุดท่องเที่ยวต้องชมของที่นี่ ทั้งนี้ นอกจากศาลเจ้าแม่ทับทิมแล้ว เขตถนนเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานระดับชาติอีกหลายแห่ง อาทิ ศาลเจ้าซือกง (施公廟) บ่อน้ำโบราณวั่นจวินจิ่ง
(萬軍井) และบ่อน้ำซื่อเหยี่ยนต้ง (四眼洞) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีบ่อน้ำ 4 บ่ออยู่ด้วยกัน เป็นต้น
อุทยานวัฒนธรรมป้อมปืนใหญ่จินกุยโถวหม่ากง (馬公金龜頭礮臺文化園區) หรือประตูยุทธศาสตร์เทียนหนาน เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานระดับชาติ โดยเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และนับเป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ป้อมปืนใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1864 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานระดับชาติในปีค.ศ.2011 โบราณสถานแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่นานหลายปี ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคม ปีค.ศ.2017 ที่ผ่านมา และกลายเป็นแหล่งวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งใหม่ของเผิงหู โดยหลังจากที่มีการเปิดให้เข้าชมอุทยานดังกล่าวแล้ว ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของเผิงหูที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง อาทิ หอกวนอิม (觀音亭) หมู่บ้านตู่สิงสือ (篤行十村) ศาลเจ้าแม่ทับทิม (天后宮) เขตหม่ากงกั่งหู้ ท่าเรือประมงแห่งที่หนึ่ง สองและสาม ตลอดจนเขตซินวัน (新灣區) เป็นต้น
นอกจากนี้ อุทยานวัฒนธรรมหรือประตูยุทธศาสตร์เทียนหนานที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมใหม่อีกครั้ง ยังได้ร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังกู้กง จัดแสดงนิทรรศการพิเศษในธีม ìเที่ยวเผิงหู เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมถงอันผ่านสื่อสมัยใหม่î โดยเป็นการจัดแสดงนิทรรศการผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ในรูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของการสร้างเรือไม้ถงอันที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีน เช่น การใช้เทคนิคการฉายภาพเสมือนจริงโฮโลกราฟฟิก การฉายภาพสามมิติที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ซึ่งเป็นการผสานโลกแห่งความจริงเข้ากับโลกเสมือน และ Kinect ซึ่งเป็นการใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายในการควบคุมการทำงานต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับความรุ่งเรืองของท้องทะเลในเอเชียตะวันออกในยุคศตวรรษที่ 19 อย่างลึกซึ้ง และยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานสามารถเดินลอดไปตามอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งเป็นบางส่วนของเส้นทางลับทางทหารของกองทัพในเผิงหู เพื่อเข้าชมวีดิทัศน์เกี่ยวกับการทำสงครามที่เกิดขึ้นในเผิงหู 4 ครั้งใหญ่ พร้อมกับสัมผัสกับการใช้ชีวิตในอุโมงค์ของเหล่าทหารหาญ
ความสวยงามของเผิงหูสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศที่หลงใหลในแสงแดด ทะเล และหาดทรายได้เป็นจำนวนมากทุกปี ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสถานที่แห่งนี้เกินกว่า 1 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่แทบจะหาซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังเผิงหูได้ยากเต็มที อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปยังเผิงหูในปีนี้มีทางเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเส้นทาง จากเดิมที่เปิดให้บริการเดินเรือเส้นทางปู้ไต้ เมืองเจียยี่ ñ หม่ากง เผิงหู (嘉義布袋─澎湖馬公) ซึ่งเป็นเส้นทางขาเดียวเท่านั้น จะมีการปรับเปลี่ยนโดยเพิ่มเส้นทางขากลับจาก หลงเหมิน (เผิงหู) ñ ปู้ไต้ (เมืองเจียยี่) (澎湖龍門─嘉義布袋港) เพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง และได้เปิดให้บริการเส้นทางทั้งขาไปและกลับพร้อมกันเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นอกจากส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวแล้ว เผิงหูยังไม่ลืมที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย โดยได้ตั้งเป้าที่จะยกระดับเผิงหูให้เป็นเกาะคาร์บอนต่ำควบคู่กับการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวมาตั้งแต่ปีค.ศ.2011 นายเฉิน
กวงฟู่เปิดเผยว่า เผิงหูได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นประจำในช่วงฤดูหนาว เป็นตำแหน่งที่รับลมได้ดี จึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังทุกๆ ปี ซึ่งนอกจากการมีแสงแดดที่เพียงพอ และมีกระแสลมแรงเหมาะสมแล้ว ในอนาคตกระแสน้ำทะเลของเผิงหูก็อาจสามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้เช่นกัน
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เผิงหูยังส่งเสริมสินค้าเกษตรและสินค้าประมงท้องถิ่นออกสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์ของตนเองสองแบรนด์ ได้แก่ ìPenghu Seafoodî แบรนด์สำหรับสินค้าประมง และ ìPenghu Farmî ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับสินค้าเกษตร ทั้งนี้ นายเฉินกวงฟู่เปิดเผยว่า เผิงหูได้ผลักดันให้สินค้าเกษตรและสินค้าประมงในท้องถิ่นต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของการผลิต ก่อนที่จะส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค
ìมาเที่ยวเผิงหูได้ความสนุกครบทุกรส ที่นี่มีอาหารทะเลสดๆ ให้กิน มีแหล่งท่องเที่ยวที่เล่ายังไงก็เล่าไม่หมดให้ดู มาเที่ยวครั้งเดียวรับรองว่าไม่เพียงพอ เพราะเผิงหูเป็นสถานที่ที่คุ้มค่าสำหรับการกลับมาเยือนได้ครั้งแล้วครั้งเล่าî นายเฉิน กวงฟู่ พ่อเมืองเผิงหูกล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับตบอกรับประกันอย่างมั่นใจ