ไทเปไม่หนาว เมื่อหัวใจเราอบอุ่น บำบัดอาการคิดถึงบ้านด้วยอาหารพื้นๆ จากบ้านเกิด
เนื้อเรื่อง‧หลี่ซันเหว่ย ภาพ‧หลินหมินเซวียน แปล‧แสงชัย กิตติภูมิวงศ์
เมษายน 2018

桃園是一個輕工業城市,多年來成為外籍人口集中的地區。因為泰籍移工在工廠中佔有極大比重,泰式料理也如雨後春筍般興盛。「泰式永順小吃店」就開在桃園火車後站,東南亞一條街上。新鮮道地的家常口味,不僅是泰國人的最愛,也大獲台灣人的好評。
เถาหยวนเป็นเมืองอุตสาหกรรมเบา ซึ่งในช่วงหลายปีมานี้ได้กลายเป็นแหล่งรวมประชากรต่างชาติไปเสียแล้ว และเนื่องจากตามโรงงานมีแรงงานไทยครองสัดส่วนค่อนข้างมาก จึงทำให้อาหารไทยเป็นที่แพร่หลายและมีร้านอาหารไทยผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ร้านน้องแสตมป์ อาหารไทย อีสาน หรือชื่อภาษาจีนว่า ไท่ซื่อหย่งซุ่นเสี่ยวชือ
เตี้ยน (泰式永順小吃店) จึงถือกำเนิดขึ้นที่บริเวณหลังสถานีรถไฟเถาหยวน บนถนนย่านเอเชียอาคเนย์ ด้วยอาหารรสชาติแบบปรุงกินที่บ้านซึ่งได้ความเป็นไทยแท้ๆ ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบของพี่น้องชาวไทยเท่านั้น ยังถูกใจชาวไต้หวันด้วยเช่นกัน
เจ้าของร้านคือคุณจ้าวซิ่วหลัน (趙秀蘭) หรือชื่อไทยว่า ต้อย สุภาภรณ์ ไตรณรงค์ ซึ่งเดินทางมาอาศัยในไต้หวันเกือบ 40 ปีแล้ว แม้โชคชะตาชีวิตจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่หลังจากชีวิตเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมา ก็ทำให้เธอเปรียบเสมือนดอกหญ้าที่ดูบอบบางแต่แข็งแกร่ง ฉันรักไต้หวัน ฉันรักคนไต้หวัน ด้วยหัวใจที่โอบอ้อมอารีและมีเมตตา เธอจึงมีความสำนึกในบุญคุณและรู้คุณค่าเป็นอย่างดี พรประการเดียวที่ฉันจะขอก็คือ ขอให้ทุกคนในครอบครัวปลอดภัยและอยู่ด้วยกันตลอดไป การเดินทางมาไต้หวันในช่วงแรกเธอแทบจะทนอากาศหนาวไม่ไหว แต่ความรักและความอบอุ่นทำให้ไทเปไม่หนาวอีกต่อไป
มาไต้หวันในวัยเพียง 19 ปี
คุณสุภาภรณ์เกิดที่กรุงเทพมหานคร เติบโตมาในครอบครัวที่ลูกเยอะ เธอเป็นลูกคนที่ห้าและเป็นลูกสาวที่เฉลียวฉลาดเชื่อฟังพ่อแม่ที่สุดมาโดยตลอด คุณแม่ของเธอมีลูก 7 คน และจากโลกนี้ไปตั้งแต่เธออายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้น คุณพ่อซึ่งทำงานเป็นช่างไฟฟ้าและประปาต้องทำมาหาเลี้ยงลูกๆ แบกรับภาระดูแลลูกเพียงลำพัง
ตอนเด็กๆ พ่อบอกว่ากินผักบุ้งจะทำให้ตาสวย พ่อก็เลยทำผักบุ้งให้พวกเรากินทุกวัน คุณสุภาภรณ์เล่าถึงความหลังครั้งวัยเยาว์ เป็นความขมขื่นที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตา ถึงแม้จะยากจนแต่คุณพ่อก็ยังเลี้ยงดูลูกๆ จนเติบโตมาได้ แต่ละวันเปิดกล่องข้าวดู จะมีไข่ฟองหนึ่งที่พ่อทำเป็นเมนูต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และความนับถือในฝีมือการทำอาหารของคุณพ่อเริ่มต้นจากจุดนี้เอง
ตอนอายุ 19 ปี คุณสุภาภรณ์ตามคุณป้ามาอยู่ที่ไต้หวัน ขณะนั้นเธอพักอยู่ที่ตั้นสุ่ยและทำงานในโรงงานขนมปัง ไต้หวันทำงานรายได้ดี ตอนฉันอยู่กรุงเทพฯ ได้เงินเดือน 1,800 บาท แต่พอมาทำงานในไต้หวัน มีรายได้ถึงเดือนละ 10,800 เหรียญไต้หวัน เมื่อพูดถึงตอนที่มาทำงานไต้หวันช่วงแรกนั้น ประกายแห่งความสุขก็ฉายออกมาในแววตาของคุณสุภาภรณ์ ครั้งแรกที่ฉันขนของฝากกลับไปเมืองไทย ฉันกำเงิน 7,500 บาท ยัดใส่มือของพ่อ แม้คุณพ่อของเธอจะเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว แต่ความรู้สึกภาคภูมิและเปี่ยมไปด้วยความสุขในครั้งนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในจิตใจของเธอจนถึงทุกวันนี้
แม้กระนั้น ฤดูหนาวในภาคเหนือของไต้หวันทำให้เด็กที่โตมากับสภาพอากาศร้อนตลอดทั้งปีอย่างคุณสุภาภรณ์ต้องหนาวจนตัวสั่น เธออยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีก็บินกลับเมืองไทย แต่ 2 เดือนให้หลัง คุณป้าของเธอป่วย เธอจึงต้องกลับมาไต้หวันอีกครั้ง มันคงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตให้ฉันต้องมาที่ไต้หวัน หลังจากนั้นครึ่งปี เธอก็แต่งงานกับชาวไต้หวันที่อายุมากกว่าถึง 20 กว่าปี
ความสุขที่หลุดลอยไป
เขาเป็นคนดี และดีกับฉันมาก แต่ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่ต่างกันมาก อุปสรรคทางภาษา และความเคยชินในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้คุณสุภาภรณ์ประสบความล้มเหลวในชีวิตคู่ หลังจากนั้นเพียงครึ่งปีเธอจึงเลือกที่จะหย่า ยุติชีวิตคู่อันแสนสั้น เพื่อนๆ ดีกับฉันมาก ตอนที่ฉันไม่มีที่ไป ก็ให้ฉันพึ่งพิง
หลังจากหย่าแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนฝูง คุณสุภาภรณ์จึงย้ายมาอยู่ที่เขตกุยซัน นครเถาหยวน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยเปิดร้านขายของชำจำหน่ายสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันจากเมืองไทย ทำให้มีโอกาสรู้จักคนไทยด้วยกันมากหน้าหลายตา จนกระทั่งในวัย 28 ปี เธอตัดสินใจแต่งงานใหม่อีกครั้ง ฉันชอบเด็กนะคะ แต่ไม่สามารถมีลูกได้ เพื่อความฝันที่อยากจะเป็นแม่คน คุณสุภาภรณ์จ่ายเงินไปหลายแสนในการใช้เทคนิคทำเด็กหลอดแก้ว แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายกลับไม่เป็นดั่งฝัน ไม่เพียงแต่ล้มเหลวติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ผลข้างเคียงรุนแรงจากการฝังตัวอ่อนยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเธออย่างต่อเนื่อง นี่คงเป็นดวงของฉัน ไม่โทษคุณหมอหรอกค่ะ คุณสุภาภรณ์ผู้ศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิม ใช้เมตตาธรรมนำจิตใจเสมอมา
ความทุกข์ยากเป็นกรรมแต่ชาติปางก่อน
ที่ได้เปิดร้านอาหาร ก็เป็นเพราะเจ้าแม่กวนอิมประทานพรให้ เนื่องจากเดิมที เพื่อนที่เปิดร้านอาหารประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จึงไหว้วานให้คุณสุภาภรณ์มาช่วยทำร้านแทน แต่ทำอยู่ได้ไม่นานนัก เจ้าของตึกเห็นว่ากิจการร้านอาหารรุ่งเรืองดีจึงคิดค่าเช่าเพิ่ม ทำให้เพื่อนต้องย้ายร้านออกไป ปรากฏว่าตึกเดิมนั้นว่างนานถึง 8 เดือนโดยไม่มีคนเช่าต่อ เจ้าของตึกทนไม่ไหวจึงต้องกลับลำด้วยการติดต่อจ้าวซิ่วหลันหรือคุณสุภา
ภรณ์นั่นเอง อาหลัน อั๊วไม่ขึ้นค่าเช่าแล้วนะ ให้ลื้อใช้ก็แล้วกัน ทำให้คุณสุภาภรณ์ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เธอผู้ชอบการทำอาหารเป็นทุนเดิมบวกกับความมั่นใจที่มาจากตอนช่วยเพื่อนทำร้าน เธอจึงกล้าที่จะเช่าร้านต่อโดยไม่นึกไม่ฝันเลยว่าสิ่งที่เชื่อว่าสวรรค์ส่งมาให้นั้นจะกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบททดสอบต่างๆ ตามมา
ช่วงที่เริ่มเปิดร้านต้องยืมเงินมาโปะหนี้ไม่หยุด อยู่ในวังวนของการเป็นหนี้หัวโต ทำเอาฉันเกือบเอาตัวไม่รอด เมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงชีวิตที่ทุกข์เข็ญในตอนนั้น คุณสุภาภรณ์ถึงกับขมวดคิ้วและน้ำตาคลอเบ้า ตอนนั้นเป็นหนี้ท่วมหัว ค้าขายก็ไม่ได้กำไร คนไทยด้วยกันที่มากินข้าวก็ไม่ค่อยจ่ายเงินอยู่บ่อยครั้ง หรือพวกที่ติดเงินค่าอาหารนานๆ ก็ถูกส่งตัวกลับประเทศ ทำให้ทวงเงินคืนไม่ได้ เรียกได้ว่าชีวิตของเธอช่วงนั้นทำอะไรก็ติดขัดอยู่เรื่อย ขายบัตรโทรศัพท์ก็ถูกขโมยเงินไป 60,000 เหรียญ ขายเหล้าบุหรี่ที่ร้าน คนก็มาหยิบไปโดยไม่จ่ายเงิน เหรียญที่ลูกค้าหยอดตู้คาราโอเกะก็ถูกคนงัดตู้ขโมยไป มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันอุตส่าห์ใจดีให้ลูกค้าเข้าไปสวมถุงน่องในห้องฉัน ปรากฏว่าเขาขโมยเงินค่ากับข้าวของฉันที่เหลืออยู่แค่ 8,000 เอาไปหมดเลย
สภาพจิตใจที่ท้อแท้สิ้นหวังนั้นทุกข์เสียยิ่งกว่ากายที่เหนื่อยล้า ตอนนั้นคุณสุภาภรณ์นอนหลับในห้องเก็บของทุกวัน หลังจากปิดร้านเสร็จก็รู้สึกเหนื่อยจนต้องล้มตัวนอนเหยียดลงบนเตียงแข็งๆ ท่ามกลางความมืดมิดรอบตัว น้ำตาก็ไหลรินออกจากหางตา เธอร้องไห้อย่างเงียบๆ ไม่หยุด ชาติที่แล้วฉันคงทำเวรทำกรรมเอาไว้มาก ถึงต้องมาชดใช้มากมายในชาตินี้ แม้ผ่านอุปสรรคนานนับสิบปี เธอยังคงมองเห็นเรื่องราวแต่ละฉากย้อนกลับมาในสายตา เมื่อต้องพบกับความผิดหวังไม่มีที่สิ้นสุด ทุกข์ทรมานในชะตาชีวิตที่ล้มลุกคลุกคลาน ทีละเล็กทีละน้อย ก็สร้างความปั่นป่วนขึ้นในจิตใจได้
จนกระทั่งน้องชายน้องสาวมาช่วยทำงาน ชีวิตของฉันจึงเริ่มราบรื่นขึ้น เมื่อทนทุกข์จากความพ่ายแพ้และความลำเค็ญมาได้ ในที่สุดคุณสุภาภรณ์ก็มีวันที่สดใสสวยงาม ช่วงไม่กี่ปีมานี้ ฉันค่อยๆ ปลดหนี้ได้ ต้องขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมที่ช่วยคุ้มครองฉัน
ลูกค้าเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว
อาหารอร่อยหรือไม่ ถือเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สุดคือความสดใหม่ ชื่อเสียงโด่งดังจากการบอกต่อกันปากต่อปาก ทำให้มีทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่แวะเวียนกันมาอุดหนุนทุกวันไม่ขาดสาย คุณสุภาภรณ์เปิดสาขาใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอย่างเข้มงวด ถ้าอาหารนี้คุณกินได้ จึงจะให้ลูกค้ากิน ราคาย่อมเยาและน่ารับประทาน เป็นหลักการที่คุณสุภาภรณ์ยึดถือมาโดยตลอด
ถึงแม้จะเป็นอาหารไทยแบบปรุงกินเองที่บ้าน ซึ่งช่วยผ่อนคลายอาการคิดถึงบ้านให้คนไกลบ้าน แต่เรื่องการตกแต่งอาหารอย่างพิถีพิถันแบบไทยๆ คุณสุภาภรณ์ก็ไม่เคยละเลยในจุดนี้ ถ้าอาหารร้านนั้นมีชื่อเสียง ฉันจะซื้อกลับมาแล้วดูว่าคนอื่นเขาทำกันอย่างไร เธอมุ่งมั่นพัฒนาฝีมืออย่างไม่หยุดยั้งด้วยจิตใจแห่งกุศล
ร้านเล็กๆ ก็ต้องลงมือทำเองนี่แหละค่ะ คุณสุภาภรณ์ยืนหยัดในรสชาติแบบดั้งเดิม จนถึงทุกวันนี้เธอยังคงทำงานหนักโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ทุกเดือนจะต้องกลับเมืองไทยเพื่อซื้อวัตถุดิบเครื่องเคียงต่างๆ แต่คนที่อยู่ไต้หวันมาเกินครึ่งชีวิตอย่างเธอ รู้จักรสชาติที่ถูกปากคนไต้หวันมานานแล้ว เธอรู้ดีว่าจะต้องปรับรสชาติเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดเช่นไร ฉันปรับปรุงรสชาติมาโดยตลอด และมักจะบอกกับลูกค้าเสมอว่า ถ้ารสชาติไม่อร่อยให้บอกฉันได้เลย คุณสุภาภรณ์ซึ่งเป็นแม่ครัวมานานหลายสิบปี แต่ไม่เคยทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เธอยอมรับคำติชมจากลูกค้าอย่างถ่อมตนอยู่เสมอ
ใช้ความสำนึกในบุญคุณ เยียวยาบาดแผลในจิตใจ
ถึงคุณไม่ชอบฉันก็ไม่เป็นไร ขอเพียงฉันชอบคุณ ยิ้มให้คุณทุกวัน แล้วสักวันหนึ่งคุณก็จะยิ้มให้ฉันเอง เธอใช้รอยยิ้มและความสุขุมสลายปัญหาและอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า สองมือกุมจี้พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ห้อยอยู่กลางอก ด้วยความมุ่งมั่น เข้มแข็ง แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนราวกับเหล็กที่สามารถดัดให้โค้งได้ นั่นคือสติปัญญาที่ผ่านการฝึกฝนและหล่อหลอมด้วยประสบการณ์
คุณสุภาภรณ์ซึ่งกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวมานาน ไม่เพียงแต่มีใจเมตตาดูแลผู้หลักผู้ใหญ่และพี่น้องมานาน ยังคอยให้ความช่วยเหลือและดูแลน้องๆ เสมือนเป็นลูกหลานของตน ตอนนี้คนไปซื้อวัตถุดิบคือน้องชาย พวกเขาสามารถรับผิดชอบงานเองได้แล้วค่ะ เมื่อเห็นพวกเขาทำงานเดินไปเดินมาในร้านอย่างตั้งอกตั้งใจ คุณสุภาภรณ์ผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ในที่สุด คิ้วที่มักขมวดกันด้วยความเครียดก็สามารถคลายปมได้ในที่สุด ไต้หวันก็คือบ้านของฉัน ตอนนี้ในใจของฉันขอพรอยู่แค่อย่างเดียว คือขอให้ครอบครัวปลอดภัยและอยู่ด้วยกันตลอดไป เช่นเดียวกับความหมายชื่อร้านอาหารของเธอที่จะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นตราบนิรันดร์