สรรพนามบุรุษที่ 1 แปลได้กว่าสิบแบบ
ในบางครั้ง การแปลอาจต้องเจอกับทางตัน เพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรมด้านภาษาทำให้บางครั้งจำเป็นต้องแปลแบบตรงตัวโดยไม่สามารถแปลความหมายที่แท้จริงที่แฝงอยู่ภายในข้อความนั้นได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณยูกินะต้องแปลบทความการประกวดนางงามจากภาษาจีนเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีการใช้สำนวนโวหารจีนพรรณนาความงามของผู้เข้าประกวด แต่ในภาษาญี่ปุ่นหาคำศัพท์ที่สอดคล้องทั้งความหมายและสัมผัสสระเล่นสำนวนไม่ได้ สุดท้ายจึงทำได้แค่แปลตรงตัวทื่อๆ “นี่เป็นบทความที่ฉันรู้สึกว่าแปลไม่ได้มากที่สุดเลยค่ะ” คุณยูกินะบอก
ขนาดมุราคามิ ฮารุกิ (Murakami Haruki) นักวรรณคดีผู้ยิ่งใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นเองยังเคยพลาดมาก่อนเช่นกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาแปลนวนิยายนักสืบเล่มหนึ่ง แปลไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว จึงมาพบว่าคำที่ใช้เรียกสรรพนามบุรุษที่หนึ่งไม่เหมาะกับอุปนิสัยของตัวละคร ทางที่ดีต้องแปลใหม่ทั้งหมด ที่แท้คำว่า ฉัน หรือ I ในภาษาอังกฤษนั้น ในภาษาญี่ปุ่นมีวิธีการพูดมากกว่าสิบแบบ การที่นักแปลจะเลือกสรรพนามบุรุษที่ 1 มาใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมที่สุดนั้น จะต้องใช้ความคิดอย่างหนัก
ในฐานะที่เป็นนักแปลอิสระ การฝึกฝนวินัยในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณโรเบิร์ตยกตัวเองเป็นตัวอย่างและกล่าวอย่างติดตลกว่า ตนชอบเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไอจี ดูเน็ตฟลิกซ์ทั้งวัน แต่เขาต้องพูดเตือนตัวเองอย่างจริงจัง 3 ครั้งว่า “You have to get work done. (นายต้องทำงานให้เสร็จ)”
ไม่มีเจ้านาย เป็นนายตัวเอง ไม่มีเพื่อนร่วมงานแย่ๆ เป็นงานที่สามารถนั่งทำที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ เช่น สตาร์บัก, แมคโดนัลด์ อาชีพนักแปลอิสระดูเหมือนว่าจะเป็นงานที่มีความอิสระสูง “แต่นักแปลจะต้องมีวินัยด้วยตนเอง ทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด” คุณโรเบิร์ตย้ำเตือนเรื่องนี้เป็นพิเศษ
สิ่งสำคัญข้อแรกสำหรับงานแปล
ต้องเก่งภาษาแม่
คุณสมบัติของคนที่อยากจะประกอบอาชีพนักแปลคืออะไร? วิทยากรนักแปลทั้งสามต่างลงความเห็นตรงกันว่า การฝึกฝนภาษาแม่ให้เก่งเป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำให้น้องๆ นักเรียนเรียนภาษาจีนให้เก่งๆ ภาษาแม่เป็นพื้นฐานของการฝึกฝนภาษาต่างประเทศ “ถ้าอยากพัฒนาทักษะการแปลภาษาของตนเอง ต้องฝึกภาษาแม่ให้เก่งเสียก่อน” คุณยูกินะรู้สึกเช่นนั้น
คุณเตมมีกล่าวว่า “ผมเรียนภาษาจีนมา 10 กว่าปี ก็ยังเทียบกับคนที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ไม่ได้” เขาผู้เคยสัมผัสกับการทำงานในองค์กรระดับนานาชาติมาแล้วได้ให้คำแนะนำอย่างจริงใจว่า “ในอนาคต ถึงแม้ว่าคุณจะไปอยู่ต่างประเทศ แต่จุดแข็งและข้อได้เปรียบของคุณยังคงเป็นภาษาแม่ของคุณอยู่ดี” ทักษะภาษาแม่ของนักแปลมืออาชีพจะต้องอยู่ในระดับมาตรฐานสูง
ด้านคุณโรเบิร์ตแนะนำว่า ในยามปกติควรฝึกฝนการเขียนเรียงความเยอะๆ อ่านหนังสือเยอะๆ ทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมของอีกฝ่าย เวลาแปลแล้วเจอคำที่ไม่เข้าใจ อย่าแปลเองทั้งที่ไม่มั่นใจว่าแปลถูก “ต้องปรึกษาขอความเห็นจากผู้อื่น” หากต้องแปลบทความสาขาเฉพาะด้าน จะต้องหาความหมายจากพจนานุกรมศัพท์เฉพาะทาง สิ่งเหล่านี้เป็นข้อควรปฏิบัติที่นักแปลที่ดีพึงกระทำ
การแปล คือศาสตร์แห่งศิลป์
งานแปลมีความเกี่ยวข้องกับลีลาสำนวนการแปลว่าแปลได้ไหลลื่นและสื่อความหมายได้ดีเพียงใด ไม่เพียงแต่ภาษาจีนต้องดี ภาษาต่างประเทศก็ต้องดีด้วย “ทักษะความสามารถด้านภาษาเป็นคุณสมบัติข้อแรกในการประกอบอาชีพนักแปล” อาจารย์เฉินจื๋อเหว่ยสรุป เขาบอกกับนักเรียนว่า งานแปลยังเกี่ยวข้องกับการคิดเชิงวิเคราะห์ทั้งด้านทักษะ, ภาษาศาสตร์, ปรัชญา และวัฒนธรรม การแปลทำให้ผู้คนสามารถเข้าใจภาษาต่างๆ ได้ “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสามารถทำให้รู้จักและเข้าใจตนเอง”
ภาษาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ แม้จะต่างสัญชาติ ต่างสีผิว การแปลจะช่วยให้ผู้คนสามารถขจัดอุปสรรค เพิ่มความเห็นอกเห็นใจ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น และเปิดมุมมองโลกทัศน์ได้กว้างขึ้น