การถือกำเนิดขึ้นมาของรถไฟความเร็วสูงได้ย่นระยะห่างระหว่างภาคเหนือกับภาคใต้ให้สั้นลง นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาต่างต้องหยุดฝีก้าวไว้ชั่วขณะ เพื่อเก็บบันทึกภาพประทับใจที่อาจแล่นหายไปได้ในชั่วพริบตา
รถไฟความเร็วสูงนำผู้คนสู่จุดหมายปลายทาง จากสถานีหนึ่งสู่อีกสถานีหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนสถานที่ อารมณ์ของผู้คนก็แปรเปลี่ยนไปด้วย โดยไม่รู้ว่าสถานีต่อไปมีอะไร แต่มันก็เต็มไปด้วยสีสันแห่งความเปลี่ยนแปลง
รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (台灣高鐵: Taiwan High Speed Rail) เปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อปีค.ศ.2007 เชื่อมต่อระหว่างเมืองต่างๆ ทางฝั่งตะวันตกของไต้หวัน ช่วยให้ผู้คนประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างมาก ความสะดวกรวดเร็วของการเดินทาง สถานีรถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบใหม่ทันสมัย สร้างอัตลักษณ์ใหม่ของการเดินทางระบบขนส่งมวลชนให้แก่ผู้คน เริ่มต้นจากสถานีไทเป เถาหยวน ซินจู๋ ไทจง เจียยี่ ไถหนาน และเกาสง ต่อมาสร้างสถานีเหมียวลี่ จางฮั่ว และหยุนหลินเพิ่ม ซึ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2015 ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลาในการเดินทางเท่านั้น สิ่งปลูกสร้างของตัวอาคารสถานีก็บรรจงออกแบบอย่างพิถีพิถันผิดแผกจากสถานีแบบเดิมๆ ที่มักจะให้ความสำคัญเฉพาะความรวดเร็วและการใช้งานเท่านั้น แต่ได้บรรจงออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น และเป็นสิ่งปลูกสร้างสีเขียวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย พลิกภาพลักษณ์เก่าๆ ในอดีต ให้มีความใกล้ชิดกับผู้คนและธรรมชาติ เฉกเช่นสิ่งที่รถไฟความเร็วสูงประสงค์จะถ่ายทอดสู่ผู้คน ìสัมผัสความจริงî (Be There)
เปิดประสาทสัมผัส ชมภาพย่อเวลาไต้หวัน
นายหยางจื๋อเป่า (楊子葆) อดีตผู้แทนไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ประจำประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไต้หวัน ถ่ายทอดความเป็นมาและภาพฉากต่างๆ ขณะโดยสารบนรถไฟความเร็วสูงได้อย่างถึงแก่นทีเดียว เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายบนขบวนรถไฟความเร็วสูงเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่ขบวนรถขับเคลื่อนออกจากสถานี เขาก็จะเต็มไปด้วยความคาดหวังและรู้สึกตื่นเต้น เริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งทุกครั้งไป
รถไฟความเร็วสูงช่วงไทเปเป็นเส้นทางที่อยู่ใต้ดิน เมื่อเคลื่อนตัวผ่านสถานีปั่นเฉียว (板橋站) เราจึงเริ่มเห็นสีสันแห่งบรรยากาศอันร่มรื่นเขียวขจีของทิวทัศน์สองข้างทาง ช่วงระหว่างสถานีเถาหยวน (桃園) กับซินจู๋ (新竹) จะได้ชมทัศนียภาพสระน้ำน้อยใหญ่ตลอดสองข้างทาง จากนั้นจะค่อยๆ แล่นเข้าสู่เมืองแห่งเทคโนโลยี ซินจู๋ เราจะพบเห็นความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบท และเมื่อเคลื่อนตัวผ่านอุโมงค์ เราก็จะรู้ได้ทันทีว่า กำลังเคลื่อนตัวสู่เขตภูเขา จากนั้นก็จะเห็นท้องนาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา และหลังจากผ่านสถานีไทจงแล้ว ก็จะสัมผัสกับพื้นที่ราบสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีคราม ผ่อนคลายความตึงเครียดที่หมกหมุ่นติดมากับชีวิตในเมือง พาดผ่านเขตที่ราบภาคกลางเจียยี่และไถหนาน ตัดผ่านเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์แล้ว ก็จะมุ่งสู่ภาคใต้ของไต้หวัน
คุณหยางจื๋อเป่าสาธยายทิวทัศน์เบื้องหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเหล่านี้อันเนื่องจากอากาศที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ เมื่อเขาต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง คุณหยางมักจะแนะนำพวกเขาที่มีกำหนดการแน่นเอี๊ยดให้ลองสัมผัสการโดยสารรถไฟความเร็วสูงดูบ้าง โดยบอกว่า ìใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่ถึง 2 ชม. คุณก็จะสามารถสัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยสดงดงามฉบับย่อของไต้หวันได้อย่างไม่ยากเย็นนักî
3 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติมมีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ประณีตและบรรจง อาศัยช่วงเวลาสั้นๆ ซึมซับบรรยากาศภายในสถานี สะกดใจไปกับภาพเบื้องหน้าที่แปรเปลี่ยนไป หน้าต่างกระจกใสบานใหญ่มองทะลุออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกสถานี ยิ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้โดยสาร ทอดสายตาไปกับทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตา สัมผัสอย่างเต็มที่กับภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เปิดประตูสู่ระบบสัมผัสความงามรอบข้าง
สถานีสีเขียวที่มีลมหายใจ สัญลักษณ์แห่งสปิริตชาวฮากกา
หลังจากสถานีอูรื่อ (烏日站) ที่นครไทจงแล้ว คุณเซวียจาวซิ่น (薛昭信) สถาปนิกแห่ง Hoy Architects & Associates ได้รับงานออกแบบสถานีรถไฟความเร็วสูงเหมียวลี่อีกครั้ง เขาได้ขบคิดพิจารณาอยู่หลายตลบว่า ìสถานีรถไฟความเร็วสูงที่เหมียวลี่ บ้านเกิดของชาวฮากกา ควรจะถ่ายทอดสปิริตของชาวฮากกาอย่างไร?î คุณเซวียในฐานะลูกหลานชาวฮากกา กางแบบพิมพ์เขียวจำนวนมากออกมาพินิจพิเคราะห์ ซึ่งรวมถึงพิมพ์เขียวที่สะท้อนแนวความคิดของนครไทจง ที่เสริมสร้างสีสันจาก ìกระสวยด้ายî ในเครื่องทอผ้า สะท้อนความเร็วของขบวนรถไฟความเร็วสูงกับการเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของไต้หวัน
ทีมงานของเขาต่างมีความเห็นว่า ความเร็วแห่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มิใช่ของแปลกใหม่อะไรเลย สิ่งปลูกสร้างที่ผ่านมาต่างเน้นย้ำถึงการใช้ประโยชน์จากมัน แต่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในปัจจุบัน เราก็ควรคำนึงถึงปัจจัยในอีกลักษณะหนึ่งด้วย คุณเซวียเห็นว่า สิ่งปลูกสร้างควรที่จะดำรงอยู่คู่กันกับธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน
ทีมงานที่เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์การออกแบบสิ่งปลูกสร้างอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมานานนับสิบปี ได้ก้าวออกจากกรอบการออกแบบของการเป็นเพียง ìสถานีî โดยนำเอาแนวความคิด ìSmart Skinî มาใช้เป็นครั้งแรก ออกแบบให้สามารถปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ อบอุ่นในหน้าหนาวแต่เย็นสบายยามฤดูร้อน ลดการใช้พลังงาน กลายเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงที่มี ìลมหายใจî
ทีมงานได้อาศัยระบบดิจิทัลมาวิเคราะห์มุมแสงอาทิตย์ที่จะสาดส่องเข้าสู่สถานีรถไฟความเร็วสูงโฮ่วหลง (後龍鎮) เหมียวลี่ (苗栗縣) พบว่าบริเวณหลังคาและด้านทิศใต้จะถูกแสงแดดสาดส่องค่อนข้างรุนแรง ในขณะที่บริเวณหลังคาจะออกแบบติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ไม่เพียงแต่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้เองได้เท่านั้น หากยังสามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
สวนหย่อมหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงก็มีระบบเก็บสะสมและใช้ประโยชน์จากน้ำฝน กลายเป็นสวนหย่อมระบบนิเวศ ส่วนต้นไม้ก็ปลูกต้นไม้ในท้องถิ่นเป็นหลัก สวนหย่อมยังช่วยปรับอุณหภูมิไม่ให้ร้อนเกินไป เมื่อลมร้อนพัดผ่านสวนหย่อมก็จะกลายเป็นลมเย็น พัดสู่ตัวอาคารทำให้เย็นสบาย ส่งผลให้ตัวอาคารของสถานีประหยัดพลังงานได้มากทีเดียว
แสงสว่างสาดส่องผ่านหลังคากระจกบนทางเดินภายนอกตัวอาคาร ก็ยิ่งสร้างจุดเด่นให้แก่ต้นไม้เขียวขจีและดอกถงฮัว (桐花 หรือดอกมะเยา) เมื่อออกแบบให้มีลักษณะวางทอดเป็นแนวยาวแล้ว และเมื่อแสงแดดสาดส่องพาดผ่านเข้ามา ก็เสมือนเงาอันร่มรื่นจากต้นดอกถงฮัว แหงนหน้าขึ้นมองเบื้องบนก็จะเห็นเงาดอกถงฮัวกับท้องฟ้าสีครามแจ่มจรัส สาดส่องประกายที่แอบแฝงหลบซ่อนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ìเหมียวลี่î
ภายในสถานีจะมองเห็นเส้นทางเดินต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทางเข้ามีบันไดเลื่อนและลิฟต์ที่มองเห็นได้อย่างถนัดตา บันไดเลื่อนที่พาผู้คนสู่ชานชาลาเป็นบันไดเลื่อนที่มีความยาวที่สุดใน 12 สถานีรถไฟความเร็วสูงในไต้หวัน และยังอาศัย ìแสงî นำพาผู้คนสู่จุดหมายปลายทาง โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องหมายนำทางใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกระจกลวดลายต่างๆ ที่ครอบส่วนล่างของบันไดเลื่อนยังเป็นส่วนประกอบป้องกันมิให้คุณสุภาพสตรีต้องวิตกว่าจะ ìโป๊î ขณะเดินขึ้นบันไดเลื่อน คุณเซวียบอกว่า สถานที่สาธารณะไม่จำเป็นต้องมีป้ายบอกทางมากมายนัก ภายในสถานีควรจะมีความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสารให้มาก เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางด้วยความสะดวกสบายไปพร้อมๆ กับการชื่นชมทัศนียภาพและอัตลักษณ์ของการออกแบบตัวสถานีด้วย
เมื่อสถานีเหมียวลี่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านต่างชื่นชมการออกแบบที่เต็มไปด้วยสปิริตแห่งชาวฮากกา จนคว้ารางวัลระดับเพชรจากการประกวดสิ่งปลูกสร้างสีเขียว
ภาพสะท้อนสู่จินตนาการ ดั่งภาพยนตร์เหนือมิติ
คุณเหยาเหรินสี่ (姚仁喜) ผู้ก่อตั้ง KRIS YAO ARTECH (大元建築工場) ซึ่งรับผิดชอบการออกแบบสถานีรถไฟความเร็วสูงซินจู๋ (新竹站) รับหน้าที่ในการออกแบบสถานีรถไฟความเร็วสูงที่หยุนหลิน (雲林站) และจางฮั่ว (彰化站) เคยศึกษาทางด้านภาพยนตร์ที่สหรัฐอเมริกา มักจะจินตนาการภาพภายในอาคารด้วยการแบ่งเป็นฉากๆ เมื่อพบเห็นผู้โดยสารที่เดินขวักไขว่ด้วยความไม่คุ้นเคยและลุกลี้ลุกลนภายในสถานี ได้ตั้งปณิธานที่จะต้องออกแบบสถานีให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ และเป็น ìฉากî ที่รู้สึกได้ถึงความผูกพันระหว่างกันด้วย
ìฉากî จะกระตุ้นต่อมความรู้สึกของผู้คน ทำให้ผู้คนในท้องถิ่นมีความรู้สึกร่วมได้ และยังทำให้ผู้โดยสารที่รอพัก ณ ที่นี้ มีความผูกพัน ทำให้สถานีรถไฟความเร็วสูงที่ออกแบบใหม่นี้กลายเป็นสัญลักษณ์หรือประตูสู่ท้องถิ่น สร้างความหวังหรือภาพแห่งอนาคตให้บรรเจิด
จางฮั่ว ในฐานะศูนย์กลางการผลิตดอกไม้ไต้หวัน สถานีรถไฟความเร็วสูงจางฮั่ว อาศัยดอกไม้เป็นสัญลักษณ์สำคัญในการออกแบบ ต้นไม้เขียวขจีปลูกโดยรอบภายในอาคาร และขยายออกไปยังท้องทุ่งภายนอกอาคาร ท่ามกลางแสงส่องสว่างจากโคมไฟทำให้เกิดบรรยากาศเหนือความจริง ประหนึ่ง ìฉากî ในภาพยนตร์ สามารถคว้ารางวัลประเภทป๊อบปูลาร์โหวตของ Architizer A+ Award จากสหรัฐอเมริกา
ทีมงานได้อาศัยจินตนาการจากกลีบโค้งของดอกไม้สีขาว ขยายไปสู่ปลายดอกบนหลังคาของตัวอาคาร แล้วอาศัยรูป สามเหลี่ยมเป็นส่วนเน้นดอกไม้บานที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ นอกจากจะหลีกเลี่ยงมิให้ถูกแสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในโดยตรงแล้ว ยังเปิดให้แสงอาทิตย์สาดส่องไปยังเสารูปดอกไม้ภายในอาคารด้วย ทำให้เกิดภาพที่แตกต่างกันออกไป เมื่อมุมของแสงแดดเปลี่ยนทิศทางไป
คุณเหยาเห็นว่า เสน่ห์ของเสาอยู่ที่การสร้างภาพให้บังเกิดขึ้น และบดบังสายตาได้ในบางโอกาส ซึ่งมีความแตกต่างกันระหว่างภาพลักษณ์ของเสากลมกับเสาเหลี่ยมด้วย ดังนั้น เขาจึงออกแบบเป็นพิเศษให้เป็นเสาสีขาวบริสุทธิ์ฐานแคบและผ่ากลาง กลายเป็นเสากลีบดอกไม้อันวิจิตรตระการตา เพื่อแก้ปัญหาเสาบดบังสายตา ไม่เพียงแต่จะต้องเพิ่มพื้นที่ให้แก่สายตาเท่านั้น หากยังต้องทำให้ผู้โดยสารมีความรู้สึกถึงความแปรเปลี่ยนที่บังเกิดขึ้นด้วย
ผู้โดยสารที่เดินทางจากภาคใต้ไปภาคเหนือจะเห็นหลังคารูปสามเหลี่ยม อาจรู้สึกงงว่า มันสื่อความหมายอะไรกันแน่ แต่เมื่อก้าวขึ้นบันไดเลื่อนไปตามทาง พบเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าก็จะหายสงสัยในบัดดล กลีบดอกไม้รูปสามเหลี่ยมยื่นออกไปถึงต้นเสา เงาของเสารูปดอกไม้ที่ทอดผ่านพื้นเงาอร่ามที่แท้ก็คือ ìดอกไม้î นั่นเอง
เมื่อผู้โดยสารแหงนหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ก็จะเห็นเพดานสีคราม รู้สึกได้ถึงความเย็นฉ่ำ ไม่รีบเร่ง เมื่อทอดสายตาไปยังหน้าต่างบานใส บรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ ผู้คนก็จะสัมผัสด้วยจิตใจเบิกบาน จนแยกไม่ออกว่าเป็นในหรือนอกตัวอาคารกันแน่
เมื่อก้าวออกจากตัวสถานี สายตาก็จะทอดไปยังทิวทัศน์ภายนอกอาคารที่เสมือนเป็นรูป ìเถียนî ì田î หรือ ìนาî เปรียบประดุจฉากหนึ่งในจางฮั่ว ìก้อนเมฆปลิวไสวลมเอื่อยๆ ฝูงนกบินถลาสู่ท้องนาî และเมื่อตกค่ำ แสงไฟที่สาดส่องเปรียบเสมือนยืนอยู่ท่ามกลาง ìห้องเพาะเลี้ยงพืชในโลกแห่งจินตนาการî เสมือนก้าวเข้าสู่ฉากโลกพิศวง สู่อนาคต ฉากแล้วฉากเล่าที่ไม่เคยซ้ำกันเลยเหล่านี้ กลายเป็นสัมผัสในโลกละครที่คุณเหยาชื่นชอบที่สุด
เงาแห่งหยุนหลิน เสาและมุมเอียงบรรจงเป็นโน้ตแห่งดนตรี
เมื่อเปรียบเทียบกับการออกแบบด้วยรูปดอกไม้ของสถานีจางฮั่วแล้ว สถานีหยุนหลินกลับออกแบบด้วยเสาที่เรียบง่าย ในลักษณะเดียวกัน สร้างจินตนาการให้แก่ผู้พบเห็น และเป็นฉากที่ไม่ซ้ำแบบใคร คุณเหยาสาธยายแนวความคิดในการออกแบบของเขาว่า เป็นการต่อเสริมเติมแต่งอณูแห่งความซับซ้อน อาศัยการสร้างสรรค์ให้มีความ ìเอียงî อย่างต่อเนื่อง และรู้สึกถึงความต่อเนื่องอย่างเป็นระเบียบ เมื่อนำมาเรียงรายกันแล้วก็จะกลายเป็นแนวเส้นแห่งสายตา เสมือนโน้ตดนตรีที่เรียงรายไว้ บรรเลงเพลงอันไพเราะจับใจแก่ผู้คน
หลังคาปูด้วยกระดานแผ่นเป็นชั้นๆ วางทับซ้อนกันไล่เรียงเป็นลำดับ เมื่อแสงเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างแผ่นกระดานเหล่านี้ กลายเป็น ìเงาî แสงและเงาก็จะเปลี่ยนไปตามเวลาที่คืบคลานไป วัสดุก่อสร้างที่ซ้อนกันหลายๆ ชั้น สร้างฉากที่ไม่ซ้ำแบบใคร
คุณเหยาบอกว่า ìสิ่งปลูกสร้างมันตั้งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน คุณอาศัยการผันแปรของแสงอาทิตย์ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาพและจังหวะแห่งการเคลื่อนตัวของสิ่งปลูกสร้าง และนี่ก็คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หลอมรวมอยู่ในสถานที่แห่งนี้î และยิ่งทำให้เราสำนึกได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นหากไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากระบวนท่าก็จะไม่สามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติหยุดลงด้วยตัวของมันเองได้ การใช้สิ่งที่เป็นรูปธรรมและสิ่งปลูกสร้างสะท้อนแสงและเงา อาศัยสิ่งเหล่านี้มาบรรยายฉากที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า แผ่นป้ายโฆษณาเขียนไว้ที่สถานีหยุนหลินว่า ìแสงแห่งเมฆและเงาของต้นไม้î ซึ่งเป็นคำบรรยายชื่อของสถานที่แห่งนี้ ìหยุนหลินî นั่นเอง คุณเหยาเห็นว่า การบรรยายแบบนี้ช่างเหมาะสมกับความเป็นอัตลักษณ์ของสถานีแห่งนี้จริงๆ
รถไฟความเร็วสูงย่นระยะทางให้ภาคเหนือกับภาคใต้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ย่อฉากไต้หวัน ให้ผู้คนได้กลั่นกรองความคิดให้บริสุทธิ์ท่ามกลางความเคลื่อนไหว ดื่มด่ำไปกับภาพฉากแล้วฉากเล่า ขณะเหม่อมองออกไปภายนอกหน้าต่าง สะกดให้ฉากแห่งชีวิตของผู้คนหยุดนิ่งอยู่ ณ ที่นี้.