นอกจากกิจกรรมทางศาสนาแล้ว โบสถ์คาทอลิกยังเปิดห้องครัว ห้องเรียน และพื้นที่อื่น ๆ ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ใช้ประโยชน์อีกด้วย คุณหวงจีหม่าบอกว่า มีการแบ่งออกเป็น 17 กลุ่มตามสถานภาพ เช่น คนงานในโรงงาน ผู้อนุบาล ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีน และแม้แต่ชาวเวียดนาม หากเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของโบสถ์ จะเห็นกลุ่มต่าง ๆ เข้าเรียนแบ่งตามพื้นที่ หรือจัดงานวันเกิดให้เพื่อน ๆ เป็นต้น กล่าวได้ว่าโบสถ์คาทอลิก St. Christopher ดูแลชาวต่างชาติเหล่านี้เป็นอย่างดี ทั้งทางจิตใจและทางวัตถุ
King Wan Wan Shop Mall บ้านอีกแห่งของชาวฟิลิปปินส์
เมื่อออกจากโบสถ์ St. Christopher มุ่งหน้าไปทิศใต้ตามถนนจงซานเป่ยลู่ เดินผ่านร้านค้าปลีกที่ขายสินค้าอาเซียนแบบเชนสโตร์ชื่อดัง 2 แห่งคือ EEC และ RJ Supermart ในร้านมีสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันและอาหารอาเซียนที่ชาวฟิลิปปินส์คุ้นเคย รวมทั้งของฝากยอดนิยมหลากหลาย กล่าวได้ว่ามีสินค้าอย่างครบครัน จึงมีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อของในร้านไม่ขาดสาย
สำหรับ King Wan Wan Shop Mall แทรกตัวอยู่ระหว่างอาคารที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ เป็นสถานที่ซึ่งคุณหวงฉีหนีบอกว่า มาที่นี่มีความพิเศษคือ "เหมือนกลับถึงบ้าน" ชอปปิงมอลล์เล็ก ๆ แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 ในอดีตมีชื่อเสียงในการขายสินค้านำเข้า หลังการค้าซบเซาผู้คนย้ายออกไป ชาวฟิลิปปินส์เชื้อสายจีนเล็งเห็นโอกาส จึงได้เข้ามาทำธุรกิจขนาดเล็กขึ้นที่นี่
ในชอปปิงมอลล์ 2 ชั้นนี้ จะเห็นสินค้าวางเรียงรายหนาแน่นทั้งในแนวราบและบนหิ้ง ชั้นล่างของตึกขายอุปกรณ์สื่อสารและโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าและเครื่องประดับร่างกาย รวมทั้งทองรูปพรรณ "ชาวฟิลิปปินส์เห็นว่าการซื้อทองคำเก็บไว้ เป็นการรักษามูลค่าทรัพย์สิน” คุณหวงฉีหนีอธิบาย บนชั้นสองมีร้านอาหารบุฟเฟต์ที่บริการอาหารพื้นบ้านของฟิลิปปินส์ และมีร้านขายของชำ อาหารปรุงสด เสื้อผ้า ของเล่น แถมยังมีร้านทำผมและร้านทำเล็บด้วย
ที่น่าสนใจคือ ของที่ขายตามร้านค้าที่นี่ค่อนข้างคล้ายกัน มองดูไม่ต่างกันมาก เมื่อก้าวเข้ามาใน King Wan Wan Shop Mall จึงเหมือนเดินเข้าไปในเขาวงกตเล็ก ๆ ชาวฟิลิปปินส์ซึ่งมาที่นี่ จะไปซื้อของในร้านค้าที่รู้จักกันหรืออาจจะมีญาติหรือเพื่อนแนะนำ พวกเขาจะเดินตรงไปยังร้านที่คุ้นเคยอย่างชำนาญ นอกจากมาจับจ่ายซื้อของแล้ว พวกเขาจะพูดคุยสัพเพเหระ ทำให้บรรยากาศของที่นี่ดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่น การมาที่ King Wan Wan Shop Mall จึงเหมือนกับ “การกลับถึงบ้าน” ที่สุขสบายและอบอุ่น เมื่อได้เห็นภาพแบบนี้แล้ว พวกเราจึงเข้าใจความหมายตามคำพูดของคุณหวงฉีหนีได้ในทันที
มาร้องเพลงฟิลิปปินส์กันเถอะ !
เมื่อเดินอยู่ในลิตเติ้ลมะนิลา คุณมักจะได้ยินเสียงร้องเพลงล่องลอยมา ชาวฟิลิปปินส์มีนิสัยสนุกสนานเป็นกันเอง เมื่ออยู่รวมกันจะพากันร้องเพลง ตามร้านอาหารมักจะติดตั้งเครื่องคาราโอเกะแบบง่าย ๆ ที่ Maya Bistro ร้านอาหารทันสมัยซึ่งอยู่ติดกับสวนสาธารณะซวงเฉิง (雙城) คุณ Maya เจ้าของชาวฟิลิปปินส์ได้ติดตั้งอุปกรณ์คาราโอเกะที่ครบครันในห้องเก็บเสียง มีทั้งเพลงจีน สากลและเพลงฟิลิปปินส์ ไว้คอยให้บริการ ยินดีต้อนรับชาวไต้หวันมาร่วมสนุกด้วยกัน
ขนมหวานฟิลิปปินส์ ของดีที่มีจำนวนจำกัด
อาหารฟิลิปปินส์เป็นอาหารปรุงง่าย ส่วนใหญ่ใช้วิธีตุ๋นหรือย่าง แต่ของหวานจะมีความหลากหลายมาก ชาวฟิลิปปินส์มักตั้งแผงขายบนถนนในย่านลิตเติ้ลมะนิลา พวกเขาจะใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน มาทำของหวานซึ่งมีจำนวนจำกัด คุณหวังหรุ่ยหมิน (王瑞閔) นักวิจัยเกี่ยวกับพืช
เขตร้อนอธิบายว่า ในของหวานชาวฟิลิปปินส์
สีแดงส้มที่สะดุดตามาจากการย้อมด้วยคำแสด และสีม่วงคือมันเทศสีม่วง
ชาวฟิลิปปินส์ฝึกการเต้นรำในสวนสาธารณะในช่วงวันหยุด
ชื่อร้านค้าทั้งหมดใน King Wan Wan Shop Mall ปรากฏอยู่บนผนัง ชาวฟิลิปปินส์จะเลือกไปที่ร้านค้าที่รู้จักผ่านทางโซเชียลมีเดีย