หากคุณเปิดแผนที่ประวัติศาสตร์ไต้หวันออกมาดูจะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นยุคใดก็ตาม เมืองโบราณไม่เคยเลือนหายไปจาก หน้าประวัติศาสตร์เลย
ชุมชนเก่าแก่และวิถีชีวิตของผู้คนที่สืบสานกันมานาน ได้ บ่มเพาะให้ดินแดนแห่งนี้ พรั่งพร้อมไปด้วยวัฒนธรรมอัน งดงาม อีกทั้งระหว่างที่มีการพัฒนาไปสู่เมืองยุคใหม่ กลิ่นอาย ของชุมชนเก่าแก่ไม่เพียงไม่ได้เลือนหายไป แต่กลับส่งกลิ่น หอมอบอวลฟุ้งกระจาย งอกเงยเติบใหญ่ด้วยรูปโฉมที่เป็น เอกลักษณ์พิเศษน่าหลงใหล
นกั เดนิ ทางจากทวั่ โลกทไี่ ดย้ นิ คำ รำ่ ลอื ตา่ งมงุ่ มาเยอื นไมข่ าด สาย พวกเขาพบว่า ไต้หวันช่างเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่อง ราวและตำนานต่างๆ มากมาย และยังมีผู้คนกลุ่มหนึ่งชื่นชอบ การบอกกล่าวเล่าขานถึงเรื่องราวเหล่านี้ด้วย
ย้อนนึกถึงเพลง "เรื่องราวในเมืองเล็ก" (小城故事 อ่านว่า เสี่ยวเฉิงกู้ซื่อ) ที่เติ้งลี่จวิน (鄧麗君 ราชินีเพลงจีนชาวไต้หวัน ที่ล่วงลับไปแล้ว) เคยร้องไว้......
小城故事多,充滿喜和樂
(อ่านว่า เสี่ยวเฉิงกู้ซื่อตัว ฉงหม่านสี่เหอเล่อ)
เรื่องราวมากมายในเมืองเล็ก เต็มไปด้วยความสุขสันต์เริงรื่น
若是你到小城來,收穫特別多
(อ่านว่า รั่วซื่อหนี่เต้าเสี่ยวเฉิงไหล โซวฮั่วเท่อเปี๋ยตัว)
หากคุณได้มาเยือนเมืองเล็กแห่งนี้ ย่อมได้รับสิ่งดีๆ เหลือคณา
看似一幅畫,聽像一首歌
(อ่านว่า คั่นซื่ออีฝูฮว่า ทิงเซี่ยงอี้โส่วเกอ)
แลดูดุจภาพวาดภาพหนึ่ง สดับฟังดั่งบทเพลงบทหนึ่ง
人生境界真善美,這裏已包括
(อ่านว่า เหรินเซิงจิ้งเจี้ยเจินซั่นเหม่ย เจ้อหลี่อี่เปาคั่ว)
ขอบเขตคุณค่าชีวิตที่ดีงาม ล้วนรวมกันไว้แล้ว ณ ที่นี่.....
การสัมผัสกับเร่อื งราวในเมืองโบราณของไต้หวันต้งั แต่เหนือ
จรดใต้ น่าจะเป็นความรู้สึกเช่นนี้นี่เอง !