ความเป็นมืออาชีพและมั่นใจในตนเองของหญิงแกร่ง นำไปสู่การเป็นธุรกิจต้นแบบ
หลังก่อตั้งบริษัทไทยอีสเทิร์นแล้ว คุณหวงโซ่วเหอเคยลองจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานของตนเองภายในประเทศไทย แต่เนื่องจากต้นทุนสูง ราคาจำหน่ายต่ำ ยอดขายมักได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนได้ง่าย หลังจากที่ทดลองทำมาระยะหนึ่ง คุณหวงโซ่วเหอพบว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องคือ ทำอย่างไรจึงจะยกระดับราคาสินค้าให้สูงขึ้นและทำให้ไทยอีสเทิร์นก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ไม่มีผู้ใดสามารถทดแทนได้ ด้วยเหตุนี้เองคุณหวงโซ่วเหอจึงเดินทางไปศึกษาดูงานที่ยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นการหาประสบการณ์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ด้านวัฒนธรรมและเปิดโลกทัศน์ด้านความงามจากการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังทุ่มเงินทุนจำนวนมหาศาลจัดซื้อเครื่องทอผ้าที่ทันสมัยที่สุดเข้ามาด้วย เธอพบว่าโรงงานสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตโดยใช้แรงงานคนเป็นหลัก เพื่อลดต้นทุนการผลิต ผู้ประกอบการมักว่าจ้างแรงงานท้องถิ่น แต่คุณหวงโซ่ว
เหอซึ่งมีวิสัยทัศน์ยาวไกล เลือกที่จะว่าจ้างพนักงานจากญี่ปุ่นและฮ่องกงในระยะแรกของการดำเนินกิจการ ความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีการผลิตและพนักงานที่มีประสิทธิภาพจึงช่วยยกระดับศักยภาพด้านการแข่งขันของไทยอีสเทิร์นให้สูงขึ้น ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่างประเทศได้ในทุกๆ ด้าน
ไม่เพียงกิจการของบริษัทที่จะต้องมีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คุณหวงโซ่วเหอผู้รักการเรียนรู้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตนเองได้อย่างไร โดยทั่วไปผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งทอส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิง แต่เธอบอกว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง งานทุกอย่างทำได้หมด ยกเว้นงานแบกหามสิ่งของที่หนักจนยกไม่ไหว เธอมองว่าผู้หญิงไม่ควรจำกัดตนเองเพียงเพราะตนเองเป็นเพศหญิง งานที่ผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้ ด้วยสปิริตดังกล่าว กิจการของบริษัทไทยอีสเทิร์นรุ่งเรืองขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เธอได้รับรางวัล 10 นักธุรกิจสตรีจีนดีเด่นของโลกครั้งที่ 6
คุณหวงโซ่วเหอยอมรับว่าตนเองเป็นคนเคร่งขรึม บุคลิกภายนอกดูเป็นคนเจ้าระเบียบ ซึ่งสอดคล้องกับนิสัยที่เป็นคนจริงจังและเข้มงวดกับตนเองอยู่ตลอดเวลา เธอเชื่อว่า ìเปลี่ยนแปลงคนอื่นเป็นเรื่องยาก เปลี่ยนแปลงตนเองจะง่ายกว่าî หากพบว่า หัวหน้างานของบริษัทตำหนิพนักงานว่าทำงานไม่ดี คุณหวงโซ่วเหอจะบอกหัวหน้างานให้ทบทวนตนเองก่อนว่า เป็นเพราะยังมีวิธีการในการสอนงานที่ไม่ดีพอหรือไม่ เธอบอกว่า การค้นพบจุดแข็งของพนักงาน แล้วส่งไปทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถมากที่สุด คือหน้าที่ของผู้บริหาร แม้บุคลิกจะดูเคร่งขรึมแต่กลับเป็นคนที่ละเอียดอ่อน คุณหวงโซ่วเหอจะจดจำรสนิยม ความชื่นชอบ และแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของพนักงานและลูกค้าอยู่เสมอ นอกเวลางานเธอชอบพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวและตกแต่งบ้าน เธอเชื่อมั่นว่าการเพิ่มพูนความรู้ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง ตลอดจนหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ จึงจะทำให้ตนเองมีคุณค่า
คุณหวงโซ่วเหอมีความคิดว่า การทำบุญสร้างกุศลเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิตมนุษย์ ทุกปีบริษัทไทยอีสเทิร์นจะจัดสรรงบประมาณและผลิตภัณฑ์ของบริษัท อาทิ ถุงเท้าและผ้าห่ม นำไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลหรือกิจกรรมการกุศลของกลุ่มชาวไต้หวันที่เธอกับสามีเข้าร่วม
อุดมการณ์ของคุณหวงโซ่วเหอคือ คนต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต จากเมื่อครั้งที่เธอไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เลยแม้แต่คำเดียว แต่ด้วยความกล้าบ้าบิ่น จึงเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศไทย ยืนยันที่จะไม่จ้างล่าม พยายามใช้ภาษามือและฝึกภาษาไทยจากการฟังและพูดบ่อยๆ ต่อมาเมื่อลูกๆ เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติของอเมริกา ทำให้เธอต้องสื่อสารกับคุณครูและผู้ปกครองคนอื่นๆ ส่งผลให้ภาษาอังกฤษของเธอพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และได้กลายเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศ คุณหวงโซ่วเหอให้กำลังใจแก่คนรุ่นใหม่ว่า หากมีความสามารถ มีความเพียรพยายาม สักวันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
บริหารกิจการของบริษัทไทยอีสเทิร์นจนรุ่งเรือง ทำให้คุณหวงโซ่วเหอได้รับรางวัล 10 นักธุรกิจสตรีจีนดีเด่นโลก (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
นอกจากทำธุรกิจแล้ว คุณหวงโซ่วเหอยังร่วมงานการกุศลเป็นประจำ� (ภาพจากศูนย์บริการเพื่อการศึกษาและวัฒนธรรมไทเป กรุงเทพฯ)
คุณหวงโซ่วเหอกับคุณเฉินฟู่หัวผู้เป็นสามี ร่วมกันก่อตั้งบริษัทไทย อีสเทิร์น ดำเนินธุรกิจสิ่งทอจนประสบความสำเร็จ นับว่าเป็นการสาน ฝันให้เป็นจริง