ตลาดซื่อตงได้ประสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม
เดลิเวอรี่ตั้งจุดให้บริการขนส่งสินค้า แผงขายของต่าง ๆ มีบริการชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ยิ่งเมื่อบวกเข้ากับลักษณะภายนอกที่ผ่านการออกแบบตกแต่งมาแล้ว จึงทำให้ตลาดเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความสดใหม่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ แม้ว่าความเป็นจริงตลาดซื่อตงจะเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 ในตอนนั้น ระบบและอุปกรณ์เครื่องมือค่อนข้างพร้อม กฎระเบียบและกติกาของตลาดที่ประกาศโดยคณะกรรมการผู้ประกอบการถือว่ามีความสมบูรณ์ อย่างเช่น ตั้งแต่คณะกรรมการตลาดชุดแรกเข้ามาบริหารจัดการก็ได้ให้ความสำคัญกับการระบายน้ำเสีย มีข้อกำหนดที่สั่งไม่ให้นำสัตว์มีชีวิตเข้ามาในตลาด จากนั้น มีการกำหนดขอบเขตของแผงขายสินค้า เพื่อรักษาระยะความกว้างของพื้นที่สาธารณะ จนกระทั่งคุณเหอชิ่งฟง (何慶豐) ประธานคณะกรรมการตลาดคนปัจจุบันเข้ามาบริหาร ก็ได้มีการสร้างตัวการ์ตูน
มาสคอต และสนับสนุนให้พ่อค้าแม่ค้าเปลี่ยนโฉมภาพลักษณ์ของแผงขายสินค้า
กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ายังคงรักษาทัศนคติของความมุ่งมั่นพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งนั่นก็ทำให้ตลาดซื่อตงก้าวทันไปพร้อมกับยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น ร้านถงเจียหมั่นโถว (童家饅頭) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1953 ได้มาตั้งแผงในตลาดแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ปัจจุบันสืบทอดมาจนถึงรุ่นที่ 4 แล้ว ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคนยุคใหม่ ร้านถงเจียหมั่นโถวจึงมีการปรับปรุงขนาด รสชาติ และคิดค้นทำเป็นรูปทรงการ์ตูนต่าง ๆ หรือการนำแนวคิดจากฝั่งตะวันตกมาผลิตเป็นหมั่นโถวที่มีส่วนประกอบของผลไม้อบแห้งออกมา เมื่อเข้าใจถ่องแท้ว่าตลาดซื่อตงมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ถงเหว่ยเติง (童瑋登) ผู้สืบทอดธุรกิจรุ่นที่ 4 จึงทำการศึกษาภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม และทำให้รสชาติความอร่อยของถงเจียหมั่นโถวสามารถดึงดูดเชฟทำขนมจากประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และยังมีหญิงสาวญี่ปุ่น เดินทางมาท่องเที่ยวที่ไต้หวันแล้วถึงสามครั้งเพื่อมาเดินเที่ยวชมตลาดซื่อตงโดยเฉพาะ เมื่อดูภาพถ่ายร่วมกับลูกค้าจากประเทศต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือของคุณถงเหว่ยเติง ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหลของตลาดซื่อตงในฐานะตลาดนานาชาติเพื่อการท่องเที่ยว
ที่ตั้งของ Hope Plaza อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าซ่านเต่าซื่อ (Shandao Temple) กรุงไทเป เป็นตลาดนัดเกษตรกรที่จัดขึ้นเป็นประจำในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งรวบรวมผู้ผลิตในภาคการเกษตร การประมง และปศุสัตว์จากทั่วไต้หวัน แม้กำหนดเวลาในการเปิดทำการคือ 10.00 น. แต่ประชาชนที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ก็มักจะถือตะกร้ารถเข็นมารอที่ประตูตั้งแต่ 9 โมงกว่า เพื่อตามล่าหาขุมทรัพย์ โดยมีทั้งผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร ชอบเดินชอปปิง ยังไม่เว้นแม้แต่คุณ Wang Pitsu นักเขียนมืออาชีพผู้รอบรู้เรื่องอุตสาหกรรมการเกษตรและการประมงของไต้หวัน
การมาจับจ่ายซื้อของที่ Hope Plaza คุณ Wang Pitsu มักจะเคยชินกับการเดินวนหนึ่งรอบก่อน เพื่อดูว่าวันนี้มีของดีอะไรบ้างที่ควรค่าแก่การสอยติดไม้ติดมือกลับไป เราเห็นเธอเหมือนเป็นนักล่าอาหาร ที่มีความรวดเร็วในการเดินตลาดและมีสายตาที่แม่นยำ พวกเราซึ่งเดินตามหลังเธออยู่นั้น มีบ่อยครั้งที่เผลอหันไปแป๊บเดียว เธอได้เดินไปพูดคุยกับเจ้าของแผงอื่นแล้ว ตลาดช่วงเช้าที่เดินชอปปิงในตลาดทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์มากขึ้น เมื่อเห็น “สีแดง” ของผลมะเดื่อ ก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะหวานไม่พอหรือยังไม่สุก ส่วนเห็ดฟางตากแห้งโดยฝีมือของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเห็ด ซึ่งใช้วิธีการคล้ายกันกับเห็ดหอมตากแห้ง ก็ทำให้เกิดเป็นกลิ่นหอมน่าหลงใหล ที่แม้แต่ Wang Pitsu ซึ่งเดินทางไปเยือนตลาดนัดมาแล้วทั่วไต้หวัน ยังรู้สึกประหลาดใจตอนที่พบเห็นครั้งแรกด้วย
เวลาที่เดินชมแผงขายสินค้านอกจากผลิตภัณฑ์หลักที่เกษตรกรนำมาจัดแสดงแล้ว Wang Pitsu ยังได้ให้ความสนใจกับ “ของสะสมส่วนตัว” ของเกษตรกรที่วางไว้ด้านข้างด้วย ยกตัวอย่าง หัวไชเท้าดองโบราณอายุ 20 ปีของเกษตรกรแผงขายหน่อไม้ หรือจะเป็นไข่ไก่ของผู้ประกอบการฟาร์มเพาะเลี้ยงผึ้ง ซึ่งได้ใช้พื้นที่ว่างในฟาร์มเลี้ยงผึ้งทำปศุสัตว์แบบเปิด ด้วยการเลี้ยงไก่และนำออกวางจำหน่ายสู่ตลาดนัด เพื่อแบ่งปันให้กับผู้บริโภคในราคาย่อมเยา
ทุกสัปดาห์ Hope Plaza จะจัดวางแผงขายสินค้าของเกษตรกรให้มีความแตกต่างกันไป โดยให้สอดคล้องตามฤดูกาลผลิต ดังนั้นในแต่ละสัปดาห์จะมีเกษตรกรจากเมืองต่าง ๆ นำเอาผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นความภาคภูมิใจของพวกเขามาแบ่งปัน ณ ตลาดนัดแห่งนี้
Wang Pitsu ยิ้มและพูดว่า “ทุกครั้งที่มาเยือน Hope Plaza ก็มักจะได้พบเจอกับเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง” เมื่อได้เห็นผลผลิตทางเกษตรที่มีความแปลกใหม่ Wang Pitsu จะต้องไม่พลาดซื้อไปลองลิ้มชิมรสความสดใหม่อย่างแน่นอน เพราะนั่นไม่เพียงสามารถเพิ่มประเด็นการสนทนาบนโต๊ะอาหารเท่านั้น แต่ยังเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิตได้อีกด้วย
ร้านค้าในตลาดซื่อตงประกอบธุรกิจอย่างมืออาชีพ สร้างตลาดที่มีสไตล์ทันสมัย อาทิ ร้านถงเจียหมั่นโถวที่สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 4 ได้มีการปรับปรุงหน้าร้าน คิดค้นพัฒนาหมั่นโถวรูปทรงใหม่ ๆ เพื่อให้ทันกับยุคสมัย
สูดดมกลิ่นหอมของกาแฟในตลาดซื่อตง สัมผัสถึงความงดงามของวิถีชีวิต