จีหลงในโลกเวทมนตร์กับเป๋ยผู่ในเรื่องใบชาทอง
เที่ยวไต้หวันผ่านโลกภาพยนตร์
เนื้อเรื่อง‧ เติ้งหุ้ยฉุน ภาพ‧ หลินเก๋อลี่ แปล‧ธีระ หยาง
พฤศจิกายน 2025
ความมหัศจรรย์ของเมืองจีหลง และความสง่างามของเป๋ยผู่ ถูกเก็บไว้ในผลงานสองเรื่องคือ Grandma and Her Ghosts และ Gold Leaf สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของไต้หวัน
หากคุณเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Grandma and Her Ghosts ที่มีฉากหลังเป็นเมือง จีหลง คุณยังจดจำบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์ในเรื่องนั้นได้อยู่หรือไม่? หรือถ้าคุณเคยติดตามซีรีส์เรื่อง Gold Leaf ทั้ง 12 ตอน คุณเกิดความหลงใหลในความงามคลาสสิกของบ้านสไตล์ฝรั่งของเจียงอาซิน ที่ตั้งอยู่ในเป๋ยผู่ไหม?
ความศรัทธาในเทศกาลสารทจีน
เพื่อสำรวจบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์ของเมืองจีหลง เราจึงเชิญคุณซูเสี่ยวหลาน (蘇筱嵐) ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก คุณซูฯ ได้ก่อตั้งทีม Keelung for a Walk ขึ้นใน ค.ศ. 2015 เพื่อช่วยให้คนในท้องถิ่นใกล้ชิดกับบ้านเกิดมากขึ้น และยังช่วยนำนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้รู้จักเมืองจีหลงอีกด้วย
สำหรับชาวจีหลงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เทศกาลสารทจีน (中元祭) คุณซูเสี่ยวหลานกล่าว เธอย้อนรอยประวัติศาสตร์การพัฒนาของเมืองจีหลง ว่าเป็นท่าเรือที่ผู้คนจากหลากหลายพื้นที่มาตั้งรกราก แต่ในยุคแรกเริ่ม มีการต่อสู้ด้วยอาวุธที่รุนแรงระหว่างชาวจางโจวและเฉวียนโจว
(漳泉械鬥) ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ในช่วงทศวรรษ 1850 เหล่าผู้นำในท้องถิ่นจึงได้ออกมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ศาลเจ้าชิ่งอาน (慶安宮) และตกลงกันว่า แต่ละตระกูลจะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลสารทจีน เพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับดวงวิญญาณเร่ร่อน (好兄弟) จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันของผู้ที่อพยพมาจากถิ่นกำเนิดที่แตกต่างกัน นี่คือที่มาของเทศกาลสารทจีนอันโด่งดังของเมืองจีหลง
นอกจากนี้ ด้วยการพัฒนาทางอุตสาหกรรมในยุคแรกเริ่ม ทั้งเหมืองถ่านหินและการประมง ล้วนเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง ทางทีมงานของเราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในท้องถิ่นหลายคน ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ชาวจีหลงต่างแสวงหาความสงบสุข และเชื่อว่าบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว สามารถนำความสงบสุขมาให้ได้ ในที่สุดความเชื่อนี้ ก็ได้ส่งต่อไปยังดวงวิญญาณเร่ร่อน ทำให้พวกเขาให้ความสำคัญกับเทศกาลสารทจีนเป็นพิเศษ คุณซูเสี่ยวหลานกล่าว
ดังนั้น ในเดือนเจ็ดตามปฏิทินจีนของทุกปี เมื่อประตูผีเปิดออกเพื่อปล่อยให้ดวงวิญญาณขึ้นมาพักผ่อนบนโลกมนุษย์ ชาวบ้านจะจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้และกระดาษเงินกระดาษทองอย่างเต็มที่ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เหล่าดวงวิญญาณ คุณซูฯ เล่าอีกว่า การเดินไปทั่วเมืองจีหลงในช่วงเดือนเจ็ด เราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นควันจากการเผากระดาษไหว้เจ้าที่อบอวลไปทั่ว ตามท้องถนนที่ประดับประดาไปด้วยโคมไฟ ขณะที่จู๋ผู่ถาน (主普壇) หรือแท่นบูชาหลักที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะจงเจิ้ง (中正公園) จะเปิดไฟสว่างไสวในยามค่ำคืน แสงไฟนั้นงดงามเจิดจรัส ราวกับการก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง

แสงไฟที่ส่องสว่างอย่างงดงามของจู๋ผู่ถาน (แท่นบูชาหลัก) ทำให้เมืองจีหลงในเดือนเจ็ด เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์

ความมหัศจรรย์ในตรอกซอกซอย
คุณซูเสี่ยวหลานพาเรามายังพื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่ชาวจางโจวและเฉวียนโจวเคยเจรจาสงบศึกกัน ซึ่งก็คือศาลเจ้าชิ่งอานกง อันเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่มาจู่ ภายในศาลเจ้ามีเทพเจ้ามากมาย คอยทำหน้าที่ของแต่ละองค์ มีโคมไฟสีแดงที่เต็มไปด้วยคำอธิษฐานของผู้มีจิตศรัทธาแขวนอยู่เต็มเสา และควันธูปก็ลอยอบอวลเต็มไปหมด แม้จะเป็นภาพของศาลเจ้าที่คุ้นตา แต่กลับให้ความรู้สึกมหัศจรรย์อย่างประหลาด
เมื่อเริ่มหิว คุณซูฯ ก็พาเราไปยังตลาดเหรินอ้าย (仁愛市場) ตลาดแห่งนี้มีลักษณะเหมือนเขาวงกต ไม่เพียงแต่เป็นที่สำหรับฝากท้องเท่านั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของลูกค้าทั้งหลายอีกด้วย ในอดีต จีหลงได้รับอิทธิพลจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ทำให้วัฒนธรรมกาแฟแพร่หลายอย่างรวดเร็ว แม้แต่ในตลาดสด ก็ยังมีภาพของบาริสต้ากำลังถือกาหมุนวนดริปกาแฟอยู่ ที่น่าสนใจคือ ถัดไปเป็นร้านทำเล็บ มีน้ำยาทาเล็บสีสันสดใสเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ และมีเก้าอี้พนักพิงขนาดใหญ่วางอยู่สามสี่ตัว แม่บ้านที่มาจ่ายตลาดสามารถแวะพักและเสริมสวยได้ที่นี่
เราเดินเลี้ยวเข้าสู่ทางเดินอีกด้านหนึ่ง ผนังด้านหนึ่งเต็มไปด้วยกระจก เครื่องดัดผมแบบโบราณมีแขนยกยื่นออกมาจากผนัง ลูกค้านั่งอยู่หน้ากระจกเพื่อสระผม ดัดผม พอกหน้า และกันคิ้ว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเราเดินอยู่ในตลาดสด แต่จู่ ๆ ก็เหมือนหลุดเข้าไปในร้านทำผมได้อย่างใด? คุณว่าภาพแบบนี้น่ามหัศจรรย์ไหม?

Grandma and Her Ghosts เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 1998 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของวงการแอนิเมชันต้นฉบับของไต้หวัน ค.ศ. 2024 กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการสร้างภาค 2 (ภาพ Rice Film International)
บ้านเก่าบนถนนโบราณเป๋ยผู่
เมื่อเดินทางมาถึงเป๋ยผู่ (北埔) ซึ่งเป็นถิ่นบ้านเกิดของเรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Gold Leaf คุณเฉินว่านเฉิง (陳萬成) เจ้าของร้านหนังสืออิสระ Blue Magpie Bookstore ได้ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์จินก่วงฝู (金廣福公館) ซึ่งปัจจุบันเป็นโบราณสถานระดับชาติ พร้อมเล่าว่า เมื่อร้อยกว่าปีก่อน พื้นที่ต้าอ้าย (ประกอบด้วย เป๋ยผู่, เป่าซาน, เอ๋อเหมย) ถูกครอบครองโดยชนพื้นเมือง ทำให้ชาวฮั่นไม่สามารถเข้าไปได้โดยง่าย
ค.ศ. 1835 ราชสำนักชิงต้องการเข้าไปบุกเบิกพื้นที่ซินจู๋ จึงมอบหมายให้เจียงซิ่วหลวน (姜秀鑾) ซึ่งเป็นชาวฮากกา ก่อตั้งกลุ่มบุกเบิกจินก่วงฝู ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน้าที่ทั้งป้องกันตัวเองจากชนพื้นเมือง และทำการบุกเบิกที่ดิน โดยคฤหาสน์จินก่วงฝูแห่งนี้ ถือเป็นบ้านพักของเหล่าข้าหลวงจากราชสำนักชิง ที่ยังคงหลงเหลืออยู่อย่างสมบูรณ์ที่สุด
สำหรับชื่อจินก่วงฝูนั้น คำว่าจิน (金) หมายถึงทอง สื่อถึงความเป็นสิริมงคล ก่วง (廣) หมายถึงมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) และฝู (福) หมายถึงมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในยุคนั้น มีผู้อพยพจากมณฑลกวางตุ้งและฮกเกี้ยน มาตั้งรกรากอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความร่วมมือของชาวหมิ่นหนานและชาวฮากกา ในการยุติความขัดแย้งทางกลุ่มชนในอดีต
.jpg?w=1080&mode=crop&format=webp&quality=80)
Gold Leaf เป็นละครที่ผลิตโดย สถานีโทรทัศน์ PTS ดัดแปลงจากชีวประวัติจริง ของเจียงอาซิน พ่อค้าใบชาจากเขตเป๋ยผู่ เมืองซินจู๋ บอกเล่าเรื่องราวช่วง ค.ศ. 1949 – 1955 ซึ่งเป็นยุคที่ชาไต้หวัน ได้กลับมาผงาดในตลาดโลกอีกครั้งเป็นคำรบสอง (ภาพ PTS)
เรื่องของการซื้อบ้านกลับคืนมา
พื้นที่ในเป๋ยผู่ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและเนินเขาที่มีดินปนทรายร่วนซุย ซึ่งเหมาะแก่การปลูกชา ทำให้ที่นี่มีประวัติศาสตร์การปลูกชาที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปลายราชวงศ์ชิงจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นแหล่งผลิตชาเผิงเฟิงฉา (膨風茶) หรือชาโอเรียนทอลบิวตี้ (東方美人茶) ที่มีคุณภาพสูงและราคาแพง ตระกูลเจียงแห่งเป๋ยผู่ เคยเป็นเจ้าของโรงงานชาที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน พร้อมอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัย โดยเน้นการส่งออกชาดำและชาโอเรียนทอลบิวตี้เป็นหลัก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การส่งออกชาของไต้หวันก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี ทำให้ยุคนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ยุคทองแห่งชา (茶金)
แต่เมื่อเข้าสู่ช่วง ค.ศ. 1950 ประเทศผู้ผลิตชารายใหญ่ของโลก เช่น อินเดียและศรีลังกา เริ่มฟื้นตัวกลับมาผลิตชาได้อีกครั้ง ประกอบกับปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาด้านการบริหาร ทำให้บริษัทหย่งกวง (永光公司) ของเจียงอาซิน ประสบภาวะล้มละลาย คฤหาสน์เจียงอาซินที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและต้อนรับแขกจึงถูกธนาคารยึดไป ทำให้สมาชิกของตระกูลเจียง ต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง
จนกระทั่ง 50 ปีต่อมา ใน ค.ศ. 2012 เหล่าลูกหลานตระกูลเจียงได้ร่วมกันระดมทุนเพื่อไถ่ถอนบ้านหลังนี้กลับคืนมา และใช้เวลาสองปีในการบูรณะอาคารให้กลับสู่สภาพเดิม ก่อนที่ใน ค.ศ. 2018 สถานีโทรทัศน์ PTS ของไต้หวัน จะนำเรื่องราวชีวประวัติของเจียงอาซิน มาใช้เป็นโครงเรื่องในการถ่ายทำซีรีส์แนวสงครามธุรกิจเรื่อง Gold Leaf และคฤหาสน์ที่ผ่านการบูรณะแล้วหลังนี้ จึงได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำของซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
ปัจจุบัน คฤหาสน์เจียงอาซิน เปิดให้เข้าชมโดยต้องจองล่วงหน้า และในวันที่เราไปเยี่ยมชม ผู้นำชมคือคุณหวงยงซี (黃雍熙) ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาเจียงอาซิน ที่มีศักดิ์เป็นหลานเขยของเจียงอาซินนั่นเอง

อาคารบ้านพักทรงฝรั่งของเจียงอาซิน เคยถูกธนาคารยึดไป เนื่องจากบริษัทล้มละลาย แต่หลังจากผ่านไป 50 ปี ทายาทได้ร่วมกันไถ่ถอนและบูรณะอาคารให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
เดินเข้าสู่โลกของ Gold Leaf
สถานที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Gold Leaf ได้นำทิวทัศน์อันงดงามของไต้หวัน มาไว้ในฉากเป็นจำนวนมาก โดยบ้านบรรพบุรุษในเรื่อง ใช้บ้านเก่าของตระกูลเซียวในเจียตง (佳冬) เมืองผิงตง และอาคารอวี๋ซาน (餘三) ในเขตหย่งจิ้ง (永靖鄉) เมืองจางฮั่ว ซึ่งเป็นโบราณสถานระดับเมือง ส่วนหอพักของตัวละคร KK ถ่ายทำที่บ้านพักเก่าของอินไห่กวง
(殷海光) สำหรับฉากโรงงานผลิตชา ถ่ายทำที่โรงงานชาเก่าต้าซีในเถาหยวน และโรงงานชาเก่าซันมูน ในอวี๋ฉือ (魚池) เมืองหนานโถว ฉากของงานนิทรรศการชาที่อังกฤษ ถ่ายทำที่ Taipei Guest House นอกจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆ เช่น หอประชุมจงซาน ในไทเป, บ้านโบราณสิบหลังติดกันบนถนนตี๋ฮั่ว และโรงภาพยนตร์รุ่ยอู่ตันในเมืองฮัวเหลียน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนถูกสร้างสรรค์เป็นฉากที่มีทั้งความคลาสสิกและเป็นอมตะ ทำให้สถานที่เหล่านี้กลายเป็นมุมต่าง ๆ ของไต้หวัน ที่เหล่านักเดินทางต่างก็อยากจะกลับมาสำรวจอีกครั้ง

ประตูทางเข้าอันสง่างามและหลังคาแบบหางนกนางแอ่นที่โค้งขึ้นของบ้านเทียนสุ่ยถัง (天水堂) ของตระกูลเจียง เป็นคฤหาสน์เก่าแก่ที่สะดุดตาที่สุดบนถนนสายเก่าที่เป๋ยผู่



