IP Character ของไต้หวัน
บนเวทีระดับนานาชาติ
เนื้อเรื่อง‧เติ้งหุ้ยฉุน ภาพ‧จวงคุนหรู แปล‧รุ่งรัตน์ แซ่หยาง
มิถุนายน 2025

ในช่องแชทของ LINE สามารถส่งสติ๊กเกอร์ “เธอไม่เข้าใจสไตล์ของเจ๊หรอก” จากชุด “เหมยเหม่ย (MeiMei)” เพื่อแสดงความรู้สึกแทนข้อความได้ หรือจะเป็นแก้วเครื่องดื่มที่ถืออยู่ในมือ ซึ่งเป็นการจับมือเพื่อสร้างแบรนด์ร่วมกันระหว่าง BUGCAT CAPOO และแบรนด์เครื่องดื่มชื่อดัง ต่างสะท้อนให้เห็นว่า IP Character หรือตัวละครที่มีลิขสิทธิ์เหล่านี้ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัว ผ่านการใช้ภาพเพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ รวมถึงการสื่อสารเพื่อแสดงออกถึงตัวตน เสมือนเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างในชีวิตตลอดเวลา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา TAICCA ร่วมมือกับ TCBLA นำคณะจากไต้หวัน เข้าร่วมงานแสดงสินค้าลิขสิทธิ์ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้ศึกษาประสบการณ์จากต่างประเทศ (ภาพจาก TAICCA และ TCBLA)
มารู้จัก IP Character ที่น่ารักและโดดเด่นของไต้หวันกัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา IP Character ของไต้หวันเริ่มสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ คุณเจิ้งเหวินฝู (鄭文福) นายกสมาคม Taiwan Character Brand Licensing Association (TCBLA) ซึ่งเป็นสมาคมด้านลิขสิทธิ์แครักเตอร์ไต้หวัน ได้ยกตัวอย่างแบรนด์ Jiu Cang Miao Wo ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1998 ซึ่งมีการพัฒนาเกมออนไลน์และแอนิเมชัน โดยใช้แครักเตอร์ของแมวน้อยน่ารักที่มาพร้อมกับตากลมโตสีขาว โดยนับเป็นการ์ตูนอนิเมะเรื่องแรกของไต้หวัน ที่ถูกนำไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในญี่ปุ่นด้วย โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ชิบะของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2020
เหมียวอวกาศ คุโรโระ (Kuroro) เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษมาจากดาวเคราะห์ NGC6543 (เนบิวลาตาแมว) ที่ถูกส่งมายังโลกเพื่อปฏิบัติภารกิจ ด้วยมุมมองเกี่ยวกับการสำรวจจักรวาลที่สนุกสนาน ทำให้สำนักพิมพ์หนังสือเด็กชื่อดังของญี่ปุ่นเกิดความสนใจ และร่วมมือกับผู้สร้าง Kuroro เพื่อจัดทำหนังสือชุดพิเศษขึ้น นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ TV Tokyo (TXCOM) ซึ่งอยู่ในเครือสถานีโทรทัศน์ TX Network ยังเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านการมอบสิทธิ์การใช้งานแบรนด์ในญี่ปุ่นอีกด้วย
ยังมี “Tea Girls” สาวน้อยใบชา ซึ่งมียอดเข้าชมทางออนไลน์กว่า 200 ล้านครั้ง ถูกสร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมชาทั่วโลก และแปลงโฉมชาพันธุ์ต่าง ๆ ของไต้หวันให้กลายเป็นตัวละครสาวน้อยน่ารัก และได้ลงนามในสัญญากับบริษัทญี่ปุ่น เพื่อให้เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา Taiwan Creative Content Agency (TAICCA) หน่วยงานส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ของไต้หวัน ได้ร่วมมือกับ TCBLA นำคณะนักออกแบบเข้าร่วมแสดงผลงาน ในงานแสดงสินค้าด้านลิขสิทธิ์ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งมีการคัดเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทนเพื่อเข้าร่วมงานอย่างเข้มข้น คุณเผิงอ้ายผิง (彭愛萍) เลขาธิการสมาคม TCBLA อธิบายว่า ตามรูปแบบการคัดเลือกที่ TAICCA กำหนดไว้ จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติมาเป็นคณะกรรมการ เพื่อทำการประเมินด้านต่าง ๆ เช่น ศักยภาพทางการตลาด ความชื่นชอบนิยมในสไตล์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแครักเตอร์ เพื่อเฟ้นหาตัวละครที่มีลิขสิทธิ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตลาดในแต่ละพื้นที่

ตัวละครของ “Taiwanimal” เป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์เฉพาะถิ่นของไต้หวัน ที่ผสมผสานแนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ทำให้สามารถดึงดูดผู้ประกอบการที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันมาร่วมมือ สำหรับฤดูร้อนนี้ Taiwanimal ได้ร่วมมือกับเกษตรกรผู้ปลูกชาอาลีซาน เปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นการสร้างแบรนด์ร่วมกัน ซึ่งไม่เพียงแต่เชื่อมโยงจุดเด่นของท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมคุณค่าให้กับไต้หวันอีกด้วย (ภาพจาก Teascent Valley และ Taiwanimal)
เสน่ห์ความเป็นไต้หวันที่แท้จริง
ตลาดไต้หวันอาจจะไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้น การทำตลาดให้กับ Character ที่มีลิขสิทธิ์ จึงตั้งเป้าไปที่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เผิงอ้ายผิง กล่าวว่า “การนำองค์ประกอบในบริบทของไต้หวันมาใช้ในการออกแบบและโปรโมท IP Character ต้องอาศัยกลยุทธ์และเทคนิคมาช่วย” เธอได้ยกตัวอย่างของ “Taiwanimal (灣A麻吉)” ซึ่งเป็นผลงาน IP Character ของบริษัท Aoyi Brand Design Company ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสัตว์เฉพาะถิ่นของไต้หวัน เช่น กวางซิก้า หมีดำไต้หวัน สุนัขภูเขาสายพันธุ์ฟอร์โมซา กบต้นไม้สีเขียว และแมวดาว โดยอธิบายว่า ในการออกแบบ IP Character ต้องผ่านช่วงเวลาของการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง แต่จากประสบการณ์มากมายในต่างประเทศ ทีมงานจึงเปลี่ยนมาเน้นสินค้าประเภทตุ๊กตาของเล่น และวางตำแหน่งให้ผลิตภัณฑ์เป็น “ของเล่นฮีลใจ” ที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย พร้อมใส่แนวคิดเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปกป้องและดูแลโลก การคำนึงถึงความยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ ได้ดึงดูดให้ผู้ประกอบการที่มีแนวคิดเดียวกัน หันมาร่วมมือและสร้างแนวทางเดินของตนเอง
หลี่อวี่ซาน (李雨珊) ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Jimmy S.P.A. ซึ่งเป็นตัวแทนของจิมมี่ เลี่ยว นักเขียนและวาดภาพประกอบชื่อดังชาวไต้หวัน ได้วางตำแหน่งของแบรนด์จิมมี่ ไว้ที่เรื่องของ “การอ่าน การเดินทาง และชีวิต” โดยให้คำจำกัดความของ “ชีวิต” ไว้ว่าเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของไต้หวันได้ “สิ่งที่ไต้หวันต้องการอย่างแท้จริงคือ ความเรียบง่ายที่ไม่ธรรมดา”
อีกหนึ่งตัวอย่างของตัวละครที่มีลิขสิทธิ์ของไต้หวัน คือ “เหมยเหม่ย” ซึ่งเป็นตัวแทนของสาวอวบอ้วนน่ารักทันสมัย และมีความมั่นใจในการเป็นตัวเอง Mr. H.H ศิลปินผู้ออกแบบ Character ดังกล่าวเปิดเผยว่า “เขามอบความเป็นธรรมชาติของไต้หวันให้กับเหมยเหม่ย ซึ่งก็คือ ความกระตือรือร้น มีความกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และการมีจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้”

Tea Girls ตัวละครที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยมียอดผู้เข้าชมทางอินเทอร์เน็ตกว่า 200 ล้านครั้ง
การโต้กลับของเหมยเหม่ย
“เหมยเหม่ย” สาวอวบจ้ำม่ำ ปรากฏตัวบนโลกออนไลน์ในปี ค.ศ. 2013 พร้อมกับบุคลิกของการเป็นคนพูดตรงไปตรงมา และสะท้อนโลกจอมปลอมบนอินเทอร์เน็ต เหมยเหม่ยคือตัวละครที่ Mr. H.H สร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์และสะท้อนความเป็นจริงของสังคม อาจกล่าวได้ว่าครึ่งหนึ่งของบุคลิกและจิตวิญญาณของเหมยเหม่ยคือตัวของเขาเอง ในอดีตเขาก็เหมือนกับเหมยเหม่ย เป็นเด็กอ้วนที่เอาแต่วาดรูป วัน ๆ อยู่แต่ในห้องเรียน เพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกันก็มีแต่เพื่อนผู้หญิง อีกทั้งยังมีนิสัยและบุคลิกที่คล้ายผู้หญิง จึงมักถูกคนด่าว่าด้วยคำพูดไม่น่าฟังอยู่เป็นประจำ Mr. H.H กล่าวว่า เรื่องต่าง ๆ นั้นผ่านไปแล้ว และตอนนี้เขามีทั้งความกล้าหาญและความแข็งแกร่ง “เขาหวังมาโดยตลอดที่จะใช้เหมยเหม่ย เป็นผู้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมในสังคมปัจจุบันที่มีต่อรูปลักษณ์ภายนอก และหวังว่าเหมยเหม่ยจะช่วยปลอบโยนผู้คนที่เคยถูกปฏิบัติแบบเดียวกันได้บ้าง”

ตัวละครเหมยเหม่ย ผลงานจากปลายปากกาของ Mr. H.H เป็นตัวละครที่มีบุคลิกเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบประชดประชัน และพูดจาเสียดสี ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม (ชายใส่แว่น) สื่อถึงการใช้ชีวิตของทั้งคู่ที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ และชาวเน็ตก็ชื่นชอบเธอมาก (ภาพจาก IN2 Creation)
เอเจนซี: ผู้ผลักดันที่อยู่เบื้องหลังของตัว IP Character
ภายในหนึ่งปีแรกหลังจากที่ Mr. H.H สร้างเหมยเหม่ยขึ้นมา เพจเฟซบุ๊คของเขาก็มีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน คุณเลี่ยวเพ่ยหยิน (廖珮吟) ผู้อำนวยการของบริษัท IN2 creation ซึ่งเป็นเอเจนซีของเหมยเหม่ยมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง กล่าวว่า “จนถึงปัจจุบัน เรายังไม่เคยเสียเงินค่าโฆษณาเลย ทุกอย่างเป็นการเข้าถึงจากผู้ติดตามโดยตรง”
ในการบริหารจัดการการค้าเชิงธุรกิจของ IP Character นอกจากการคุ้มครองทางลิขสิทธิ์แล้ว คุณเลี่ยวฯ บอกว่ายังต้องให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ ความหลากหลายและความต่อเนื่องอีกด้วย วงจรชีวิตของ IP Character โดยทั่วไปอยู่ที่ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ การสร้างการจดจำและการพัฒนาแครักเตอร์อย่างต่อเนื่องเท่านั้น จึงจะสามารถดึงดูดความสนใจจากแฟน ๆ ได้ คุณเลี่ยวเพ่ยหยินกล่าวว่า “ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เราได้กำหนดธีมในการทำตลาดไว้ทุก 2 ปี” โดยเริ่มต้นจากเหมยเหม่ยที่มีบุคลิกเป็นคนอารมณ์ร้อน มั่นใจในตนเอง และพูดจาตรงไปตรงมา การทำตลาดจึงใช้ธีม “การตอบโต้” เพื่อสื่อถึงการกลับมาของเหมยเหม่ย ธีมการตลาดในช่วงที่สองคือ “ตกหลุมรัก” และเปลี่ยนมาเป็น “เพื่อน” ในช่วงที่สาม ซึ่งเน้นที่มิตรภาพของผู้หญิงและความลับระหว่างเพื่อนสนิท ธีมถัดมาหรือธีมที่สี่คือ “ธรรมชาติของมนุษย์” ซึ่งเหมยเหม่ยพูดถึงการมีแผนการและกลอุบายต่าง ๆ เพื่อบอกว่ากลยุทธ์พวกนี้เป็นเรื่องปกติของความเป็นมนุษย์ และธีมในปัจจุบันคือ “การออกเดินทาง” เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด สิ่งที่สำคัญคือการเป็นตัวของตัวเอง มีความซื่อสัตย์และมั่นใจในตัวตน โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะมองคุณอย่างไร หรือสังคมตีกรอบไว้เช่นไร
การออกแบบให้เกิดภาพจำและการสร้างไวรัลด้วยธีมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตวิญญาณของผู้หญิงที่แข็งแกร่งของเหมยเหม่ย ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่น จนมีโอกาสได้ร่วมงานกับโจวอวี้อิ่ง (周裕穎) ดีไซเนอร์ชื่อดัง และร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ให้กับแบรนด์ Just In XX ในงาน New York Fashion Week เพื่อบอกกับสาธารณชนว่า “ความสวยงามมีมากกว่าหนึ่งมาตรฐาน” ในปี ค.ศ. 2021 เหมยเหม่ยเปลี่ยนทรงผมใหม่ โดยมัดผมหางม้ายาวสองข้าง และร่วมงานกับ มิกุ ฮัตสึเนะ (Miku Hatsune) ศิลปินไอดอลเสมือนจริงชาวญี่ปุ่น

ตัวละครเหมยเหม่ย ผลงานจากปลายปากกาของ Mr. H.H เป็นตัวละครที่มีบุคลิกเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบประชดประชัน และพูดจาเสียดสี ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม (ชายใส่แว่น) สื่อถึงการใช้ชีวิตของทั้งคู่ที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ และชาวเน็ตก็ชื่นชอบเธอมาก (ภาพจาก IN2 Creation)
การปลอบโยนและพลังแห่งความเข้มแข็งจากหนังสือภาพ
จิมมี่ เลี่ยว เป็นหนึ่งในนักเขียนหนังสือและวาดภาพการ์ตูน ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนเชื้อสายจีนทั่วโลก ผลงานของเขาถูกขายลิขสิทธิ์ไปยัง 20 กว่าประเทศ โดยมีการออกใบอนุญาตมากกว่า 200 รายการ ครอบคลุมการต่อยอดไปสู่รูปแบบต่าง ๆ เช่น ละครเพลง ศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ แอนิเมชัน ศิลปะสาธารณะ เทคโนโลยี VR และยังเข้าร่วมจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะระดับนานาชาติในญี่ปุ่น อาทิ เทศกาลศิลปะ Echigo-Tsumari Triennale และเทศกาลศิลปะ Northern Alps อีกด้วย ความสำเร็จอันยอดเยี่ยมเหล่านี้ เกิดจากแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังของหลี่อวี่ซาน (李雨珊) ผู้ก่อตั้งบริษัท Jimmy S.P.A.
หลี่อวี่ซาน อธิบายว่า แม้ว่าจะเป็นการใช้ภาพในการสร้างงานเขียนเหมือนกัน แต่ตัวละครแครักเตอร์ของจิมมี่จะแตกต่างออกไป หนังสือภาพของจิมมี่เป็นหนังสือที่มีเรื่องราว ซึ่งมีฉากและตัวละครมากมาย การเป็นเอเจนซีให้กับจิมมี่ จึงแตกต่างจากการเป็นตัวแทนให้ศิลปินส่วนใหญ่ เนื่องจากแบรนด์จิมมี่เน้นการนำเสนอผลงานมากกว่าตัวของจิมมี่ นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายของหนังสือภาพของจิมมี่ คือวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี ด้วยเหตุนี้ ผลงานของเขาจึงเริ่มต้นจากการเป็น “เทพนิยายในโลกของผู้ใหญ่”
“จุดเด่นของพวกเราคือ เรื่องราวและจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องราวเหล่านั้น ดังนั้น นอกจากภาพที่มองเห็นได้แล้ว เราต้องทำให้เรื่องราวเหล่านั้นได้รับความสนใจด้วย” คุณหลี่อวี่ซานกล่าว ตลอดเส้นทางของการสร้างแบรนด์ ผลงานของจิมมี่ได้ถูกพัฒนาไปสู่ผลงานบันเทิงบนหน้าจอ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Starry Starry Night ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขา New Currents ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน และภาพยนตร์แอนิเมชันสั้นเรื่อง A Fish with a Smile ซึ่งได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน
หลี่อวี่ซานได้ประเมินทิศทางของแบรนด์ในระยะต่อไป โดยมองว่า ควรที่จะเร่งพัฒนาเนื้อหาทางดิจิตอล Jimmy S.P.A. ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในงาน Japan Licensing ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งหลี่อวี่ซานได้เลือก “When the Moon Forgot” จากผลงานที่มีอยู่ของจิมมี่ เพื่อเป็นผลงานเรือธงในการเข้าสู่ตลาดลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่นอีกครั้ง

การใช้สติ๊กเกอร์ LINE เป็นการใช้ภาพเพื่อสื่อสารทางอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเหมยเหม่ยเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ที่มีทั้งอารมณ์ขัน และสไตล์การพูดที่ตรงไปตรงมา ทำให้เหมยเหม่ยเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก (ภาพจาก IN2 Creation)
ฉากทัศน์ในชีวิตประจำวัน
ในปี ค.ศ. 2015 หลี่อวี่ซานได้เขียนจดหมายถึงคุณโทมิโอะ คิตากาวะ (北川富朗) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเทศกาลศิลปะร่วมสมัย Echigo-Tsumari Art Field ซึ่งจัดขึ้นทุกสามปีในจังหวัดนีงาตะของญี่ปุ่น และนับเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของจิมมี่สู่นิทรรศการศิลปะระดับโลก ศิลปะกลางแจ้งนี้ใช้พื้นที่ทางการเกษตร เป็นเวทีในการจัดแสดงผลงาน และอาศัยงานศิลปะเป็นสะพานเชื่อมโยงผลงานสองชิ้น ที่สร้างจากหนังสือภาพของจิมมี่เรื่อง “Kiss & Goodbye” ถูกจัดแสดงอยู่ที่บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟโดอิจิและเอจิโกะ-มิซึซาวะ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายอียามะ (IIYAMA) ของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR East)
จากนั้น ในปี 2018 ทีมงานของจิมมี่ได้กลับมาเข้าร่วมจัดแสดงผลงานอีกครั้งที่นางีตะ หลี่อวี่ซานเล่าถึงแนวคิดในการนำเสนอผลงานครั้งนี้ด้วยความตื่นเต้น ในชื่อ “Kiss & Goodbye - ความทรงจำอันล้ำค่าที่ถูกลืม” ซึ่งจิมมี่ได้ออกแบบสถานีรถไฟจำลองขนาดเล็ก โดยใช้สถานีโดอิชิและสถานีเอจิโกะ-มิซึซาวะเป็นต้นแบบ และตั้งสถานีรถไฟจำลองเหล่านี้ไว้ใกล้ ๆ กับสถานีจริง ดูราวกับตู้ไปรษณีย์ที่อยู่รายรอบ โดยทีมงานได้เสาะหาและรวบรวมสิ่งของมีค่าจากชุมชนในท้องถิ่น และนำมาจัดแสดงไว้ในตัวสถานีรถไฟจำลองขนาดเล็กเหล่านี้ เพื่อเตือนใจไม่ให้ผู้คนลืมเรื่องราวอันแสนวิเศษในอดีต เช่นเดียวกับผลงานอื่น ๆ ที่ผ่านมาของจิมมี่

สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่เหมยเหม่ยร่วมมือกับ Hatsune Miku ไอดอลเสมือนจริง (Virtual Idol) โดยปรับลูกเล่นใส่ในแครักเตอร์ของเหมยเหม่ย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแต่งตัวของเธอ (ภาพจาก IN2 Creation)

บริษัท Jimmy S.P.A. ได้ทดลองดัดแปลงผลงานของ Jimmy ให้เป็นสื่ออื่น ๆ มากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครเพลง และละครเวที ซึ่งช่วยเติมเต็มในเรื่องของการสร้างสตอรี่และขยายไปสู่ตลาดได้กว้างขึ้น ในภาพเป็นตัวอย่างโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Starry Starry Night และการ์ตูนสั้นเรื่อง A Fish with A Smile (ภาพจาก Jimmy S.P.A.)

บริษัท Jimmy S.P.A. ได้ทดลองดัดแปลงผลงานของ Jimmy ให้เป็นสื่ออื่น ๆ มากมาย เช่น ภาพยนตร์ ละครเพลง และละครเวที ซึ่งช่วยเติมเต็มในเรื่องของการสร้างสตอรี่และขยายไปสู่ตลาดได้กว้างขึ้น ในภาพเป็นตัวอย่างโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Starry Starry Night และการ์ตูนสั้นเรื่อง A Fish with A Smile (ภาพจาก Jimmy S.P.A.)

หลี่อวี่ซานเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง When the Moon Forgot ของจิมมี่ เลี่ยว กับ Hello Kitty ของ Sanrio ถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์จิมมี่ได้ใช้ตัวละครในการคอลแลปกับตัวละครอื่น ๆ เพื่อสร้างผลงานร่วมกัน “เปรียบเสมือนการสร้างสรรค์งานใหม่ขึ้นอีกครั้ง เพราะแบรนด์จิมมี่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะมอบชีวิตใหม่ให้กับตัวละครเหล่านี้”

ผลงานของจิมมี่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราว ตัวละคร และฉากต่าง ๆ ได้ถูกนำมาวาดเพื่อใช้ตกแต่งผนังในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไทเป ไปจนถึงงานศิลปะที่จัดแสดงในสถานีรถไฟรางเบาสายตั้นสุ่ย เส้นทาง Green Mountain ทำให้การมีส่วนร่วมในงานศิลปะสาธารณะ เป็นจุดเด่นและเป็นลักษณะพิเศษของแบรนด์จิมมี่ (ภาพจาก Jimmy S.P.A.)

ในปี 2015 งานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ Kiss & Goodbye ของ Jimmy ได้เข้าร่วมจัดแสดงในงาน Echigo-Tsumari Art Field ในญี่ปุ่น งานศิลปะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้คนและธรรมชาติ ผ่านการจัดแสดงในพื้นที่จริงและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในท้องถิ่น และผู้ที่มาเข้าชมงาน เช่นเดียวกับที่หลี่อวี่ซาน กล่าวไว้ว่า การเข้าร่วมงานด้วยตนเอง และได้พบปะกับผู้คนอย่างใกล้ชิดนั้น มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการแบรนด์เป็นอย่างมาก (ภาพจาก Jimmy S.P.A.)